posttoday

ตำรวจปส.ปัดจับแพะคดียาเสพติด

16 พฤษภาคม 2556

ตำรวจปส.ยันไม่ได้จับแพะหลังจำเลยคดียาเสพติดหลังไปร้องกองปราบแจงเป็นการขยายผลคดี มีพยานชี้ยืนยัน

ตำรวจปส.ยันไม่ได้จับแพะหลังจำเลยคดียาเสพติดหลังไปร้องกองปราบแจงเป็นการขยายผลคดี มีพยานชี้ยืนยัน

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผบช.ปส.  กล่าวถึงกรณีที่นายอนุกูล นิธินุศากร อายุ 37 ปี จำเลยในคดียาเสพติด ที่เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด บช.ปส. จับกุมผิดตัวและถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 7 เดือน 13 วัน เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว จนกระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ว่า  คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีผู้นำยาบ้าซุกซ่อนมาในกล่องผลไม้ จากบริษัทขนส่งสินค้า แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ไปส่งไปสถานีขนส่ง จ.นนทบุรี  จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ที่เดินทางไปรับยาบ้าจำนวน 7,000 เม็ดที่ซุกซ่อนในกล่องผลไม้  ได้ที่สถานีขนส่ง จ.นนทบุรี  จากนั้นสืบสวนขยายผลพบว่า มีการใช้บัตรประชาชนของนายอนุกูล เป็นผู้นำกล่องผลไม้ซุกซ่อนยาเสพติดมาฝากส่งให้กับผู้ต้องหาทั้งสอง โดยมีพยานชี้ตัวยืนยันนายอนุกูล ได้อย่างถูกต้อง  เจ้าหน้าที่จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ก่อนสามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้


พล.ต.ต.สุรพล  กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอนุกูลอ้างว่าบัตรประชาชนหายนั้น ซึ่งในชั้นสอบสวนนายอนุกูลไม่ได้ระบุถึงเรื่องบัตรประชาชนแต่อย่างใด และการสอบสวนก็ได้สอบสวนต่อหน้าทนายความด้วย จึงไม่มีเหตุผลใดที่พนักงานสอบสวนจะไม่ลงบันทึกในสำนวนตามคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนเรื่องการคัดค้านการประกันตัวนั้น  ในคดียาเสพติดเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการคัดค้านประกันตัวอยู่แล้ว ซึ่งตนยืนยันว่าการจับกุมนายอนุกูล เป็นการจับกุมตามหมายจับที่ได้จากการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด

อีกทั้งยังมีพยานยืนยันชี้ตัวได้อย่างถูกต้องด้วยว่านายอนุกูล เป็นผู้ฝากส่งกล่องผลไม้ดังกล่าวจริงจึงรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับดังกล่าว  อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันนี้ (16 พ.ค.) ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน ไปขอคัดคำพิพากษาที่ศาลอาญาในคดีดังกล่าว เพื่อมาพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยอาจจะตรวจสอบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงระหว่างนายอนุกูล และผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่ถูกจับกุม และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายอื่นๆหรือไม่  ซึ่งคดีเพิ่งจะอยู่ในศาลชั้นต้นเท่านั้นจึงต้องต่อสู้คดีต่อไปตามพยานหลักฐาน  โดยจะไปหารือกับอัยการเพื่ออุทธรณ์คดีต่อไป