posttoday

ปอท.เผยพบไอพีมือแฮกเว็บรัฐแล้ว

15 พฤษภาคม 2556

ปอท.เผยพบไอทีมือแฮกเว็บสปน.แล้ว เร่งตรวจว่าเป็นใคร ขณะที่ผู้ต้องสงสัยยังไม่มาพบตำรวจ อ้างมีอาการป่วย

ปอท.เผยพบไอทีมือแฮกเว็บสปน.แล้ว เร่งตรวจว่าเป็นใคร ขณะที่ผู้ต้องสงสัยยังไม่มาพบตำรวจ อ้างมีอาการป่วย

เมื่อวันที่ 15 พ.ค. พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผู้บัญชาการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กล่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อนายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร ผู้ต้องสงสัยแฮกเว็บไซต์สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้ โดย นายณรงค์ฤทธิ์ แจ้งว่ามีอาการป่วยจึงได้ขอเลื่อนการเข้าพบเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้คาดว่า นายณรงค์ฤทธิ์คงไม่ได้คิดหลบหนีไปไหนเพราะว่ามีอาการป่วยจริงๆ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ก็กำลังเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม 

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเว็บไซต์สปน.อย่างละเอียด เบื้องต้นทางชุดสืบสวนได้พบข้อมูลสำคัญคือพบไอพีตัวหลักของผู้ที่แฮกเข้าไปในระบบแล้ว  แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากมีการใช้โปรแกรมปิดบังอำพรางตัวเป็นอย่างดี โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลตรวจสอบไอพีอย่างละเอียด เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่าเจ้าของไอพีดังกล่าวเป็นใคร ซึ่งขณะนี้พยานหลักฐานเริ่มชัดเจนมากขึ้น กลุ่มเป้าหมายแคบลงไปเรื่อยๆเหลือแค่ไอพีเดียวแล้ว 

"หากสามารถรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆได้ครบถ้วนก็จะขอศาลออกหมายจับต่อไป   ทั้งนี้หากข้อมูลทั้งหมดตรงกับนายณรงค์ฤทธิ์ คดีก็จะถือว่าเป็นที่สิ้นสุดและจะเรียกเจ้าตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป แต่หากเป็นบุคคลอื่นเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งติดตามจับกุมต่อไป"พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าว

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมทำการตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมอีกราย 2 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มสมาชิกในทีมUnlimited hack team (U.H.T.)  เพื่อนำคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ  เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้ เป้าหมายเริ่มมีการลบทำลายหลักฐานต่างๆแล้ว  อีกทั้งพวกแฮกเกอร์เหล่านี้แม้ว่าตัวจะไม่อยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ แต่ก็สามารถใช้รีโมทส่งสัญญาณทำลายหลักฐานได้  โดยคาดว่าจะลงมือตรวจค้นภายใน 2 วันนี้ ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนพบว่า กลุ่ม UHT นี้ มีการเปิดสอนการแฮกทางเว็บไซต์  แต่ในทางกฎหมายการเปิดสอนแฮกถือว่าไม่มีความผิด แต่หากผู้ที่เรียนวิชาแล้วนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย คนที่สอนก็อาจเข้าข่ายมีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดด้วย

พล.ต.ต.พิสิษฐ์   กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ยังได้เตรียมเดินทางไปฮ่องกงในวันที่ 20 พ.ค. นี้ เพื่อประสานขอความร่วมมือกับทางตำรวจฮ่องกง ในการให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับแนวทางการสืบสวนหาตัวแฮกเกอร์  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการสืบสวนสอบสวนด้านนี้ ซึ่งจะทำให้ชุดสืบสวนทราบว่าจะต้องเดินไปทางไหนต่อและจะต้องสืบสวนอย่างไรบ้าง ถึงจะทำให้ได้ผู้ที่กระทำผิดตัวจริงมาดำเนินคดี  สำหรับคดีนี้นายกรัฐมนตรีก็ได้ให้อิสระในการทำงานไม่ได้มีการกดดันอะไร  ส่วนคดีนี้ตนก็ไม่หนักใจแต่อย่างใด และคาดว่าคงจะได้ตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงภายในเร็วๆนี้