อัยการเลื่อนสั่งคดีลูกกระทิงแดงชนตำรวจดับ
อัยการเลื่อนสั่งคดี ลูกชายกระทิงแดง ซิ่งเฟอรารี่ ชนตำรวจทองหล่อดับ เป็น 19 มิ.ย. พร้อม ส่งหนังสือถึง ผบ.ตร.เรื่องความเห็นแย้งกับ พนง.สอบสวน ข้อหาขับรถเร็ว
อัยการเลื่อนสั่งคดี ลูกชายกระทิงแดง ซิ่งเฟอรารี่ ชนตำรวจทองหล่อดับ เป็น 19 มิ.ย. พร้อม ส่งหนังสือถึง ผบ.ตร.เรื่องความเห็นแย้งกับ พนง.สอบสวน ข้อหาขับรถเร็ว
เวลา 10.00 น. อัยการฝ่ายคดีอาญาใต้ 1 เลื่อนนัดการสั่งคดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส อายุ 28 ปี บุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา นักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดง ตกเป็นผู้ต้องหา กรณีขับซิ่งรถยนต์สปอร์ตหรูยี่ห้อเฟอร์รารี่พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อายุ 47 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต โดยลากศพไปใกล้กว่า 200 เมตร บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 49 ช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.55 ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ มีความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายวรยุทธ ผู้ต้องหา ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน
โดยนายฤชา ไกรฤกษ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษฝ่ายคดีอาญาใต้ 1 เจ้าของสำนวน กล่าวว่า หลังจากที่อัยการมีความสั่งฟ้องฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนตามสำนวนของพนักงานสอบสวน และได้พิจารณาสั่งฟ้องเพิ่ม 1 ข้อหา ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้มีการแจ้งกลับให้ ผบ.ตร.ทราบและพิจารณา เมื่อกระบวนการสั่งคดียังไม่เบ็ดเสร็จดังนั้นอัยการจึงเลื่อนการนัดฟังคำสั่งออกไปก่อน ซึ่งผู้ต้องหาได้มอบหมายให้ทนายความรับทราบการเลื่อนนัดแล้ว โดยกำหนดนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
สำหรับคดีนี้ เดิมพนักงานสอบสวนมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาเพียง 2 ข้อหา ฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน โดยมีความเห็นสมควรสั่งไม่ฟ้อง 2 ข้อหา ฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถขณะมึนเมาสุรา ขณะที่อัยการพิจารณาแล้วเห็นควรให้ฟ้องฐานขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดฯ อีก 1 ข้อหา เนื่องหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์ขณะที่ผู้ต้องหาขับผ่านซึ่งผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่ามีความเร็วสูงถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรานั้นมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเช่นเดียวกับพนักงานสอบสวน เพราะพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนฟังไม่ได้แน่ชัดว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ขณะขับรถหรือขณะเกิดเหตุ