posttoday

ปส.เร่งขยายผลแก๊งค้ายาเผารถ

04 พฤษภาคม 2556

ปส.แถลงผลจับกุมเครือข่ายแก๊งค้ายารายใหญ่ สารภาพได้รับคำสั่งให้เผารถทำลายหลักฐาน

ปส.แถลงผลจับกุมเครือข่ายแก๊งค้ายารายใหญ่ สารภาพได้รับคำสั่งให้เผารถทำลายหลักฐาน

เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ บช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. แถลงผลจับกุมนายไกรวิทย์ กานดา อายุ 22 ปี นายชาติชาย บุญตา อายุ 29 ปี และนายอานันท์ ป่าสลุง อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้า 327,400 เม็ด ยาไอซ์ 793 กรัม รถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทาหมายเลขทะเบียน ชฎ 4431 กทม รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาวหมายเลขทะเบียน กฉ 700 สุพรรณบุรี ปืนสั่นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด11 มม. ยี่ห้อโคลท์ 1กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9มม. ยี่ห้อบาเร็ตต้า รุ่น พีเอ็กโฟร์ 1 กระบอก และอาวุธปืนยาว HK33 ขนาด 5.56 จำนวน 1กระบอก พร้อมปลอกกระสุน 54 ปลอก

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. สืบทราบจากสายลับว่า นายไกวิทย์ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จึงนำกำลังไปซุ่มดูพฤติกรรมที่บ้านพัก 222/106 ม. 1 ซ.9 ม.เดอะคัลเลอร์บางนา กม.10 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จากนั้นเห็นนายไกรวิทย์เดินหิ้วกระเป๋า ออกมาจากบ้าน จึงนำกำลังเข้าขอตรวจค้น พบยาบ้าจำนวนหนึ่ง จากนั้นทำการเข้าตรวจค้นบ้านพักดังกล่าวพบของกลางยาบ้าและยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในห้องอีกส่วนหนึ่ง

ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนายไกรวิทย์รับสารภาพว่ากำลังจะนำยาบ้าไปส่งให้นาย ชาติชาย และนายอานันท์ โดยนัดส่งยาบ้ากันที่ ถนนบางนาตราด กม.16 จึงขยายผลและจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้เพิ่มเติม แต่ผู้ต้องหาทั้งสองพยายามเผารถยนต์แคมรี่ ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ตรวจสอบยังพบอาวุธปืนHK33 ซึ่งถูกไฟไหม้เกรียมและอาวุธปืนอีกจำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนมากถูกเผาไปด้วย

สอบสวนนายไกรวิทย์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากชายที่เรียกว่า “เฮีย” อยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่ง ให้นำยาบ้าไปส่งให้กับลูกค้า โดยได้ค่าจ้าง 50,000 บาท ซึ่งทำมาแล้ว 3 ครั้ง ส่วนนายอานันท์และนายชาติชายให้การว่า พวกตนนำอาวุธปืนดังกล่าวมาจาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จากคนชื่อ “อั้ม” เพื่อนำไปส่งที่ใดที่หนึ่ง ยังไม่ระบุที่แน่ชัดและกำลังรอคำสั่งอยู่ แต่ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุม จึงได้โทรศัพท์หานายอั้ม และได้รับคำสั่งให้เผาของกลางเพื่อทำลายหลักฐาน

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่1(ยาบ้าและยาไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป