กองปราบฯ ทลายแก๊งเงินกู้รวบ 11 ผู้ต้องหา

กองปราบปราม รวบ 2 แก๊ง รวบ 11 ผู้ต้องหาปล่อยเงินกู้นอกระบบคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมาย

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวว่า ตำรวจได้ประกอบกำลังโดยใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษกองปราบปรามเข้าดำเนินการครั้งนี้กว่า 30 นาย โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้นเป็นเครือข่ายของเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ 2 ราย โดยในกลุ่มผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่ จ.ชลบุรี นั้นเป็นสายของเครือข่ายเงินกู้นอกระบบจาก จ.อุทัยธานี ส่วนอีกกลุ่มนั้นเป็นสายของเครือข่ายเงินกู้นอกระบบของพ่อค้าระดับเศรษฐีคนหนึ่งใน จ.นนทบุรี ขณะที่ นายสายชล นั้นทำหน้าที่เป็นหัวหน้าสายปล่อยเงินกู้

"ทั้งสองเครือข่ายนั้นมีลูกหนี้ประมาณ 400 ราย ส่วนวิธีการปล่อยกู้นั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20-30 ต่อ 30 วัน หากกู้ยืม 10,000 บาท จะถูกหักเงินไปทันที 400 บาท จากนั้นจะเก็บลูกหนี้เป็นรายวันๆ ละ 400 บาท หากลูกหนี้รายใดไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ก็จะมีมาตราการเจรจาจากเบาไปหาหนัก จนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย" พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวด้วยว่า กรณีเงินกู้นอกระบบนั้นได้นำเรื่องไปหารือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินว่าดอกเบี้ยที่เก็บเกินจากที่กฎหมายกำหนดนั้น จะสามารถตรวจสอบเพื่อส่งคืนให้กับลูกหนี้ได้หรือไม่ ดังนั้นจึงอยากให้ผู้เป็นลูกหนี้ของทั้งสองกลุ่มนั้นเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพื่อนำไปดำเนินการต่อไป ขณะเดียวกันกองปราบฯ กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลไปยังต้นตอของแหล่งเงินกู้ด้วย

ทั้งนี้กองปราบฯ กำลังจัดการขั้นเด็ดขาดกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เดินทางมาให้นโยบายที่กองปราบฯ เมื่อต้นเดินที่ผ่านมา โดยสั่งการให้กองปราบฯ เข้าไปจัดการอย่างเด็ดขาดกับแก๊งเงินกู้นอก ไม่ว่าจะมีใครหนุนหลังก็ตาม

แหล่งข่าวชุดสืบสวน ตั้งข้อสังเกตว่า ในการตรวจค้นจับกุมเครือข่ายเงินกู้นอกระบบในระยะหลังจะไม่ค่อยพบสัญญาเงินกู้ แต่จะพบเพียงโผยรายชื่อ หรือสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านเท่านั้น ซึ่งสันนิษฐานว่าเครือข่ายเหล่านี้ต้องการหลบเลี่ยงความผิดตามกฎหมาย

ขณะเดียวกันชุดสืบสวนกองปราบฯ อีกชุด นำหมายค้นศาลจังหวัดอุทัยธานีเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 90/2 หมู่ 7 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยจับกุม นายมานพ อ่วมสุข อายุ 19 ปี ชาว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท พร้อมของกลางบัญชีลูกหนี้เงินกู้ และสมุดบัญชีค่าใช้จ่าย สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าให้เงินกู้นอกระบบโดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน จึงแจ้งข้อหา เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองอุทัยธานี ดำเนินคดีต่อไป

อย่างไรก็ตาม กองปราบฯ ฝากถึงประชาชนที่คิดจะกู้ยืมเงินนอกระบบขอให้พึงระลึกเสมอว่าการกู้ยืมเงินนอกระบบนั้นเป็นการสนับสนุนกลุ่มเครือข่ายเหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป แต่ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเครือข่ายเหล่านี้ก็สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่สายด่วน 1195