posttoday

หมอรพ.ศูนย์หนุนจ่ายเงินตามภาระงาน

25 มีนาคม 2556

หมอโรงพยาบาลศูนย์หนุน "ประดิษฐ"ออกระเบียบเงินตอบแทนตามภาระงาน อัดแพทย์ชนบทบิดเบือนใส่ร้าย

หมอโรงพยาบาลศูนย์หนุน "ประดิษฐ"ออกระเบียบเงินตอบแทนตามภาระงาน อัดแพทย์ชนบทบิดเบือนใส่ร้าย

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย (สพศท.) พร้อมด้วย นพ.สุทัศน์ ศรีวิไล ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป พร้อมด้วยสมาชิกกว่า 4,000 คน เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข และนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการออกระเบียบการเงินค่าตอบแทนตามภาระงาน หรือพีโฟว์พี (Pay for Performance)

นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า กังวลในเรื่องของการแสดงออก อยากให้แสดงออกอย่างถูกต้องเหมาะสมกับปัญหา ซึ่งหากว่ามีการแสดงออกที่รุนแรงจะทำให้ภาพพจน์ของวิชาชีพ เสื่อมถ้อยลงในสายตาของสาธารณชน จึงขอฝากไปถึงคนที่จะมาชุมนุมด้วยว่าขอให้ทำอย่างเหมาะสม เพราะการแสดงออกทุกอย่าง จะสะท้อนถึงความคิดและจุดประสงค์ในการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร คิดว่าถ้ามีการมาพูดคุยทำความเข้าใจกันก็ไม่น่ายืดเยื้อ แต่ถ้าไม่ยอมเข้ามาพูดคุยกันปัญหาก็ไม่จบ

"ผมไม่กลัวการชุมนุมประท้วงจะทำให้ต้องหลุดจากตำแหน่ง เพราะถือว่ามาทำงานด้วยความตั้งใจ และมีเป้าหมายหลักเพื่อทำประโยชน์ให้กับกระทรวง ถ้าทุกคนเห็นว่าผิดผมก็พร้อมออกจากตำแหน่ง แต่ถ้าทุกคนเห็นว่าผมทำถูกและพร้อมสนับสนุน ผู้ที่จะมาชุมนุมต่อต้านก็จะได้รับคำชี้แจงและน่าจะยุติการชุมนุมไปในที่สุด แต่ต้องย้ำว่าถ้าเราไม่เริ่มทดลองปรับเปลี่ยนการจ่ายค่าตอบแทนในวันที่ 1 เม.ย. นี้ ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นก็จะสูญเสีย เพราะในปีหน้าเราก็จะใช้แต่เงินเหมาจ่ายอย่างเดียว เงินจ่ายเพิ่มตามภาระงานก็จะไม่ได้ การยืดเยื้อมีแต่ผลเสีย" นพ.ประดิษฐ กล่าว

ด้าน พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปแห่งประเทศไทย (สพศท.)กล่าวว่า ที่มารวมตัวกันวันนี้เพราะคิดว่าถ้าปล่อยให้มีการประณาม ใส่ร้าย พูดจาบิดเบือนให้  รมว.สาธารณสุข และ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งไม่มีความผิดอะไรเสียหาย ถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆ ทั้ง 2 ท่านจะไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็ก ทั้งๆ ที่น้องๆ ทำไม่ถูกต้อง การออกมาชุมนุมขับไล่ รมว.สาธารณสุข ถือเป็นการทำเกินไป

พญ.ประชุมพร กล่าวต่อว่า อยากให้ รมว.สาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข รู้ว่าในหลักการปรับค่าตอบแทนจากวิธีการเหมาจ่ายมาเป็นจ่ายตามภาระงาน ช่วงแรกอาจจะขรุขระบ้าง แต่ถ้าเข้าที่แล้วจะกลายเป็นระบบที่ยุติธรรม เพราะเป็นการให้ค่าตอบแทนงานส่วนที่เกินเงินเดือน เพราฉะนั้นต้องช่วยกันทำให้เข้าที่ ซึ่ง รพ.จังหวัดทุกแห่งพร้อมที่จะปรับตัวแล้ว แต่ในระยะ 6 เดือนแรกจะเป็นช่วงการทดลองระบบวิธีไหนเที่ยงตรงที่สุด ทะเลาะกันน้อยที่สุด ตรวจสอบง่ายที่สุด  ซึ่งที่ผ่านมามีหลาย รพ.ที่นำระบบดังกล่าวมาใช้และก็ได้ผลดี เช่น  รพ.พาน จ.เชียงราย รพ.มะการักษ์ จ.กาญจนบุรี พบว่าช่วยเกลี่ยงานกัน ไม่แบ่งไปที่คนใดคนหนึ่ง ทำให้บรรยากาศการทำงานดีขึ้นเพราะไม่กินแรงกัน

“การตัดเงินครึ่งหนึ่งนั้นก็ไม่ได้ไปไหน แต่เอามารวมเป็นกองทุนของโรงพยาบาลนั้น และเอามาจ่ายเป็นค่าตอบแทนพี4พีให้กับน้องๆ หมอเด็กๆ 3 ปีแรกได้เดือนละหมื่น คนแก่ๆ ไม่ทำอะไรได้ 5 หมื่น ก็เอาครึ่งหนึ่งของคนที่ได้เยอะๆ มาเกลี่ยให้คนอื่นไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล ทันตแพทย์ ก็ได้ถ้วนหน้ากัน”พญ.ประชุมพร กล่าว

 พญ.ประชุมพร กล่าวอีกว่า ไม่วิตกกังวลเรื่องการหยุดงานเพราะเป็นช่วงวันหยุดอยู่แล้ว เป็นวันหยุด 5 วัน มีแถมลาอีก 3 วัน แต่คิดว่าจะไม่ลาเพิ่มเพราะถ้าลามากกว่านี้ก็จะไม่ได้เงินอีกหลายอย่าง ปกติก็ลากกันอยู่แล้ว ต่อให้ไม่มีอะไรก็ลา วันหยุดเขาก็จะให้หมออยู่เวรวันละคนอยู่แล้ว เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลจังหวัดซึ่งตั้งรับเป็นประจำทุกปี ทุกเทศกาล ขอแค่ที่โรงพยาบาลมีพยาบาลก็พอ   เ จริงๆ คนทำงานหนักไม่ใช่ ผู้อำนวยการ แต่เป็นน้องๆ ที่อยู่โอพีดี ไม่ว่าจะลาหรือไม่ลาก็ไม่เห็นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นโรงพยาบาลจังหวัดไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลยสักจังหวัด