ปธ.สภาหนุนสวดมนต์ข้ามปีดีกว่าดื่มเหล้า

“ปธ.สภาฯ”หนุนงานสวดมนต์ข้ามปี ชี้เป็นทางเลือกใหม่สร้างสรรค์แทนดื่มเหล้าฉลองปีใหม่ จับมือ“สสส.-ช่างภาพ”รณรงค์จัดงานให้ยิ่งใหญ่

ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรานนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานพิธีประกาศผลการประกวดและมอบรางรางวัลภาพถ่ายสวดมนต์ข้ามปี 2555-2556 ซึ่งจัดโดย สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ คณะกรรมการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ ชมรมช่างภาพสื่อมวลชน โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช  ประธานวุฒิสภา ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. และนายฉลาด จันทร์เดช ประธานชมรมช่างภาพสื่อมวลชน ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัล จำนวน 12 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 นายภมร มานะชัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายประเสริฐ ขวัญมา รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นายศศกร จิระเกียรติ นอกจากนี้ยังมีรางวัลชมเชยอีก 9 รางวัล

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ถือเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เหมาะกับทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ที่ควรค่าแก่การสนับสนุนในสังคม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีกระแสตอบรับที่ดี และเป็นทางเลือกอย่างสร้างสรรค์ในการฉลองคืนข้ามปีให้แก่ประชาชน นอกจากเป็นส่วนสำคัญช่วยลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บจำนวนมากทุกปี ที่สำคัญการสวดมนต์ ยังเป็นการสร้างสมาธิ สติ ปัญญา ทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท ทั้งนี้อยากเห็นกิจกรรมดีๆ แบบนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี สำหรับในปีต่อไปทางสภาผู้แทนฯและวุฒิสภาจะขอเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนกิจกรรมนี้ด้วย เพื่อให้กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปียิ่งใหญ่ และมีประโยชน์ต่อสังคมต่อไป

ด้านนายนิคม กล่าวว่า ขอชื่นชมสำหรับการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของ สสส. ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่การสวดมนต์ในวันสิ้นปี แต่ในวันพระใหญ่ๆ เชน วันมาฆบูชา ต่างก็ได้จัดกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน การสวดมนต์ทำให้มีสมาธิ และทำให้เกิดปัญญา จึงอยากให้มีการจัดอย่างต่อเนื่องและเผยแพร่กิจกรรมนี้อย่างแพร่หลาย และเป็นการถ่ายทอดให้เห็นภาพที่ชัดเจนถึงพลังของชาวไทย ที่เลือกเฉลิมฉลองคืนข้ามปีอย่างสร้างสรรค์ ปลอดภัย และเป็นมงคล ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม โดยควรจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอย่างต่อเนื่องและขยายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชน มีหลักธรรมประจำใจ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมน่าอยู่ และเป็นปกติสุขได้ในที่สุด

ทพ.กฤษดา กล่าวว่า กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสถานที่จัดงานทั่วประเทศ การติดตามการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์รวมกว่า 33 ล้านคน จากการประเมินผลการจัดกิจกรรม โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ประชาชนที่เข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีที่สนามหลวง 54.7% จะนำข้อคิดที่ได้รับไปปฏิบัติด้วยตนเอง และอีก 44.6% จะชักชวนให้ผู้อื่นปฏิบัติ มีเพียง 0.7% ที่ไม่ปฏิบัติ นอกจากนี้ 80% ระบุว่าจะมาร่วมกิจกรรมในปีหน้าอีก โดย 40.8% จะชักชวนเพื่อนมาร่วมกิจกรรมด้วย สะท้อนให้เห็นว่า สังคมต้องการพื้นที่สร้างสรรค์ ปลอดภัย ห่างไกลอบายมุขในการเฉลิมฉลองคืนข้ามปี ซึ่งการประกวดภาพถ่ายจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่จะจุดกระแสให้คนไทยสนใจเข้าร่วมสวดมนต์ข้ามปีเพิ่มมากขึ้น