posttoday

"เพียรพร" วิพากษ์ทุนข้ามชาติสัญชาติไทย

22 กุมภาพันธ์ 2556

เครือข่ายองค์กรสิ่งแวดล้อม ห่วงผลกระทบระบบนิเวศลุ่มแม่น้ำสาละวิน ติงทุนข้ามชาติหวังแต่ผลประโยชน์

เครือข่ายองค์กรสิ่งแวดล้อม ห่วงผลกระทบระบบนิเวศลุ่มแม่น้ำสาละวิน ติงทุนข้ามชาติหวังแต่ผลประโยชน์

น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนนานาชาติ กล่าวปาฐกถาหัวข้อ "เขื่อนข้ามพรมแดน ทุนข้ามชาติ คำถามถึงธรรมาภิบาลในอุษาคเนย์" เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ณ ห้องประชุมจันทร์จรัส อาคารสำนักอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม จัดโดยมูลนิธิโกมลคีมทอง 

น.ส.เพียรพร ระบุว่าโครงการบนแม่น้ำสาละวินซึ่งเป็นแม่น้ำนานาชาติสายสำคัญในภูมิภาค ปราศจากข้อตกลงในการใช้แม่น้ำร่วมกัน ทำให้เกิดความกังวลใจในผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบนิเวศ และประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ตลอดลุ่มน้ำสาละวิน

ทั้งนี้ โดยเฉพาะประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยในพม่า ซึ่งพบว่าในสมัยนั้นกองทัพพม่าใช้เป็นเงื่อนไขในการเข้ายึดพื้นที่และทำลายกองกำลังฝ่ายต่อต้านของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับ"ใบอนุญาตข่มขืน" ของเครือข่ายสตรีไทยใหญ่  ที่ระบุการทารุณทางเพศต่อผู้หญิงไทยใหญ่กว่า 600 กรณีโดยทหารพม่า

นอกจากนี้ น.ส.เพียงพร ยังกล่าวถึง นักลงทุนที่ไม่ได้คิดว่าป่าและแม่น้ำเป็นของคนทุกคนในภูมิภาค คิดแต่เรื่องเขตแดนประเทศ เมื่อไม่ได้อยู่ในประเทศของตน ก็ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะต้องดูแลรักษา หวังเพียงจะกอบโกยผลประโยชน์จากป่าและแม่น้ำ อีกทั้งปัญหาอีกประการหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็คือ การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ โดยให้สัญญาว่าเป็นการพัฒนา ซึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในท้องที่เป็นอย่างมาก เช่น เขื่อนไซยะบุรี ประเทศลาว ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่าแสนล้าน โดยบริษัทสัญชาติไทยกู้เงินจกาธนาคารพาณิชย์ 6 แห่งของไทยในการดำเนินการ

"สิ่งที่อาเซียนควรเร่งดำเนินการ คือ การออกแบบกฎกติการะดับภูมิภาคเพื่อใช้ร่วมกัน ไม่ให้การลงทุนข้ามชาติในด้านต่างๆ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และสิทธิมนุษยชน" น.ส.เพียรพร ระบุ