posttoday

สสส.วอนสื่อรณรงค์การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

20 กุมภาพันธ์ 2556

สสส.พร้อมภาคีวอนสื่อรณรงค์การป้องกันอุบัติเหตุ ชี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป จวกไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯเสนอนโยบายลดอุบัติเหตุ

สสส.พร้อมภาคีวอนสื่อรณรงค์การป้องกันอุบัติเหตุ ชี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป จวกไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯเสนอนโยบายลดอุบัติเหตุ

สสส. ร่วมกับสำนักอำนวยความปลอดภัยก กรมทางหลวง และภาคีสื่อมวลชน ร่วมจัดเสวนาเชิงปฏิบัติการ"สื่อมวลชนในการขับเคลื่อนการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน" ณ โรงแรมแม่น้ำ กรุงเทพมหานคร โดยมี นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ประธานโครงการแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) กล่าวรายงานสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย

นพ.วิทยา กล่าวว่า อัตราการสวมหมวกกันน๊อคในประเทศไทยมีเพียงร้อยละ 44 ในขณะที่อัตราการติดแอลกอฮอล์ของประชากรไทย คือ ร้อยละ4 และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ตรงข้ามกับต่างชาติที่มีอัตราการติดแอลกอฮอล์ลดลง และเมื่อเปรียบเทียบอัตราความเร็วในการขับขี่รถโดยความเร็ว 120 กม./ชม.เท่ากับอัตราความเร็วที่ตกจากตึกสูง 19 ชั้น ดังนั้นประเทศไทยควรมีมาตรการตรวจจับความเร็วและการคาดเข็มขัดนิรภัยหรือการสวมใส่หมวกกันน๊อคอย่างเคร่งครัด พร้อมวอนสื่อช่วยรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่เพียงเฉพาะช่วงเทศกาล

"ประเทศไทยติดอันดับ6ของโลกเรื่องอันตรายจากอุบัติเหตุทางท้องถนน การไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่ขาดเข็มขัดและการเมาในขณะขับขี่ ถือเป็นการขาดวินัยในการขับขี่รถ ดังนั้นทุกภาคส่วนควรให้ควาทสำคัญในเรื่องนี้เพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ภาครัฐจะต้องออกกฎหมายและบังคับใช้อย่างเคร่งครัดและครอบคลุมไปถึงเรื่องการตรวจสอบสมรรถภาพรถยนต์ เช่น กรณีที่นักปั่นชาวอังกฤษคู่สามี-ภรรยา ถูกรถกระบะชนเสียชีวิต ตรวจสอบพบภายหลังว่าสมรรถภาพรถมีปัญหา จึงควรมีการเอาผิดกับเจ้าของกิจการที่เป็นเจ้าของรถ" นพ.วิทยา กล่าว

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร รองประธาน สอจร. กล่าวว่า สื่อมีอิทธิพลในการกระจายข่าวสารเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวเรื่องการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยเพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้สื่อควรจะต้องชูสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้ประสบอุบัติเหตุและคู่กรณีเป็นใครรวยมากน้อยแค่ไหน
 
พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยสื่อจะต้องเป็นตัวกลางสะท้อนให้ประชาชนเห็นว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาทั่วไป

นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ กล่าวว่า ไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.คนไหนจะกล่าวถึงนโยบายการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มีแต่นโยบายการแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งอุบัติเหตุทางถนนก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากที่สุด แต่กลับไม่ได้รับความใส่ใจจากทุกภาคส่วน