พระพยอมไม่หวั่นกระแสต้านอุ้มชินวัตร
พระพะยอมไม่ปฏิเสธขึ้นเทศน์พร้อมพระพายัพยันไม่แบ่งสี เผยวัดสวนแก้วสายไหม้เหตุคนแห่โทรต่อว่าอุ้มตระกูลชินวัตร
พระพยอมไม่ปฏิเสธขึ้นเทศน์พร้อมพระพายัพยันไม่แบ่งสี เผยวัดสวนแก้วสายไหม้เหตุคนแห่โทรต่อว่าอุ้มตระกูลชินวัตร
พระพยอม กัลป์ยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับการนิมนต์เข้าร่วมการเทศนาธรรมในงานครบรอบ 3 ปี สถานีโทรทัศน์ธรรมารธิปไตยของคณะสงฆ์ ที่อาคารใหม่สวนอัมพร ในวันที่ 23-24 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตามทราบว่างานครั้งนี้จัดร่วมกันจากหลายสำนักสงฆ์ ดังนั้นจึงมีพระสงฆ์นักเทศน์หลายรูปจากหลายสำนักเข้าร่วม รวมถึงพระพายัพ (นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) ด้วย
พระพยอม กล่าวต่อว่า การร่วมเทศน์ครั้งนี้ไม่กังวลว่าจะเกิดกระแสต้านจากฝ่ายที่ไม่ชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่ได้มองว่าต้องนำเรื่องการแบ่งสีแบ่งขั้วมาเกี่ยวข้องกับการเทศน์ธรรมสอนประชาชน ตนสามารถเทศน์กับใครก็ได้ที่เป็นมนุษย์ หากเป็นชาวพุทธด้วยกันแล้วเลือกรับกิจกรรม เลือกแบ่งคนว่าควรเทศน์หรือไม่ควรเทศน์ด้วยคงไม่ใช่ลักษณะที่พระสงฆ์ควรกระทำ
พระพยอม กล่าวด้วยว่าภายหลังให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนว่า การแต่งตั้งพระพายัพให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ว่ามีสิทธิทำได้นั้น ปรากฏว่ามีประชาชนโทรเข้ามาต่อว่าแสดงความไม่พอใจโดยโทรศัพท์เข้ามาทางมูลนิธิวัดสวนแก้วจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกรณีล่าสุดที่อธิบดีกรมการศาสนาระบุว่าเป็นเพียงฉายาไม่ใช่พระฐานานุกรมนั้นเห็นว่าผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ดีที่สุด คือ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ ในฐานะเป็นผู้แต่งตั้งเองว่าแต่งตั้งโดยเหตุผลใด
“เขาเข้าใจผิดไปตีความว่าอาตมาบอกว่าสร้างโบสถ์ จึงสามารถเลื่อนชั้นได้ไม่ผิด แต่อาตมาต้องการสื่อว่าผู้ที่มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ช่วยงานพระพุทธสาสนาหลายด้านอาจเลื่อนชั้นได้ หากเป็นวิจารณญาณของผู้แต่งตั้ง เพราะสมเด็จ (พระธีรญาณมุนี) เองท่านก็เป็นผู้มีปัญญา บางส่วนก็โทรมาต่อว่าหาว่าอาตมาไปช่วยตระกูลชินวัตร ห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับพวกเขา อย่าไปเทศน์ อย่าไปสอน อย่าไปคุยด้วย ถามว่านี่เรากลายเป็นพระที่ต้องดูถูกเขาแล้วหรือ เขาไม่ใช่คนหรือ แล้วการดูถูกคนจะเป็นพระได้อย่างไร” พระพยอมกล่าวทิ้งท้าย
พระพยอม กัลป์ยาโณ ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับการนิมนต์เข้าร่วมการเทศนาธรรมในงานครบรอบ 3 ปี สถานีโทรทัศน์ธรรมารธิปไตยของคณะสงฆ์ ที่อาคารใหม่สวนอัมพร ในวันที่ 23-24 ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตามทราบว่างานครั้งนี้จัดร่วมกันจากหลายสำนักสงฆ์ ดังนั้นจึงมีพระสงฆ์นักเทศน์หลายรูปจากหลายสำนักเข้าร่วม รวมถึงพระพายัพ (นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี) ด้วย
พระพยอม กล่าวต่อว่า การร่วมเทศน์ครั้งนี้ไม่กังวลว่าจะเกิดกระแสต้านจากฝ่ายที่ไม่ชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะไม่ได้มองว่าต้องนำเรื่องการแบ่งสีแบ่งขั้วมาเกี่ยวข้องกับการเทศน์ธรรมสอนประชาชน ตนสามารถเทศน์กับใครก็ได้ที่เป็นมนุษย์ หากเป็นชาวพุทธด้วยกันแล้วเลือกรับกิจกรรม เลือกแบ่งคนว่าควรเทศน์หรือไม่ควรเทศน์ด้วยคงไม่ใช่ลักษณะที่พระสงฆ์ควรกระทำ
พระพยอม กล่าวด้วยว่าภายหลังให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนว่า การแต่งตั้งพระพายัพให้เป็นพระฐานานุกรมในตำแหน่งพระครูปลัดสัมพิพัฒน์ญาณจารย์ว่ามีสิทธิทำได้นั้น ปรากฏว่ามีประชาชนโทรเข้ามาต่อว่าแสดงความไม่พอใจโดยโทรศัพท์เข้ามาทางมูลนิธิวัดสวนแก้วจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกรณีล่าสุดที่อธิบดีกรมการศาสนาระบุว่าเป็นเพียงฉายาไม่ใช่พระฐานานุกรมนั้นเห็นว่าผู้ที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ดีที่สุด คือ สมเด็จพระธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ ในฐานะเป็นผู้แต่งตั้งเองว่าแต่งตั้งโดยเหตุผลใด
“เขาเข้าใจผิดไปตีความว่าอาตมาบอกว่าสร้างโบสถ์ จึงสามารถเลื่อนชั้นได้ไม่ผิด แต่อาตมาต้องการสื่อว่าผู้ที่มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา ช่วยงานพระพุทธสาสนาหลายด้านอาจเลื่อนชั้นได้ หากเป็นวิจารณญาณของผู้แต่งตั้ง เพราะสมเด็จ (พระธีรญาณมุนี) เองท่านก็เป็นผู้มีปัญญา บางส่วนก็โทรมาต่อว่าหาว่าอาตมาไปช่วยตระกูลชินวัตร ห้ามไม่ให้ไปยุ่งกับพวกเขา อย่าไปเทศน์ อย่าไปสอน อย่าไปคุยด้วย ถามว่านี่เรากลายเป็นพระที่ต้องดูถูกเขาแล้วหรือ เขาไม่ใช่คนหรือ แล้วการดูถูกคนจะเป็นพระได้อย่างไร” พระพยอมกล่าวทิ้งท้าย