posttoday

จำเลยปล้นบ้านสุพจน์รับได้เงิน200ล้าน

12 กุมภาพันธ์ 2556

ศาลอาญาสืบจำเลยนัดแรกดคีปล้นบ้านสุพจน์"เสธไก่"วางแผนล่มหลายครั้งก่อนลงมือได้เงินไป200ล้านบาท

ศาลอาญาสืบจำเลยนัดแรกดคีปล้นบ้านสุพจน์"เสธไก่"วางแผนล่มหลายครั้งก่อนลงมือได้เงินไป200ล้านบาท

ที่ศาลอาญา ศาลนัดสืบพยานจำเลยครั้งแรก คดีปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 และนายสุพจน์ ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสิงห์ทอง หรือ เสธ.ไก่ ใจชมชื่น ,นายเสาร์แก้ว นามวงค์ , นายสมบูรณ์ หรือบูรณ์ ริยะเทน , นายบุญสืบ หรือสืบ โจมกัน , นายวุฒิชัยหรือวุฒิ พันธวารี, นาย วณัญกฤต หรือจ่อย บุตรกันหา , นายประพันธ์ เรียงเครือ , นายชยธัช หรือ เอก จันนะชัย และน.ส.วาสนา สาเพิ่มทรัพย์ เป็นจำเลยที่ 1 - 9 ในความผิดฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง กระทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพฯ , ร่วมรับของโจร และร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 , 34 0 , 357 , 365 และ 371 กรณีเมื่อวันที่ 12 ก.พ. - 23 พ.ย. 54 เวลากลางคืน จำเลยกับพวกร่วมกัน บุกรุกเข้าไปในบ้านของนายสุพจน์ ผู้เสียหาย ที่ ซ.ลาดพร้าว 62เขตวังทองหลาง แล้วลักเงินสดจำนวน 18,121,000 บาท ไป ซึ่งคดีนี้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2555

ศาลเบิกตัวนายสิงห์ทอง หรือเสธ.ไก่ จำเลยที่ 1 เบิกความเป็นพยานจำเลยปากแรก สรุปว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อพ.ย.2554 จำเลยกับพวกเคยไปดูบ้านเป้าหมายในซอยลาดพร้าว 62 ขณะนั้นไม่รู้ว่าเป็นบ้านของใคร มีการวางแผนอีกหลายครั้ง แต่ปรากฏว่าต้องล้มเลิกไป เพราะไม่พร้อมทั้งเรื่องจำนวนคน และรถที่จะใช้

กระทั่งเช้าวันที่ 12 พ.ย. นายวีระศักดิ์ หนึ่งในพวกของจำเลยแจ้งว่า ให้รอฟังคำสั่งนายที่เป็นนักการเมืองระดับชาติก่อน หากถูกจับได้ให้รับสารภาพ และประโคมข่าวให้ดังว่ามีเงินเยอะในบ้าน และจะจัดหาทนายความช่วยเหลือการประกันตัวและจะพาออกไปประเทศลาว

ต่อมา เมื่อถูกจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนจำเลยก็รับว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมปล้น และได้เงินไป 200 ล้านบาท และยังเหลือภายในบ้านอีก 700 - 1,000 ล้านบาท ขณะที่ระหว่างถูกสอบสวนกลับไม่มีทนายความมาช่วยดูแลแต่อย่างใด

คดีนี้อัยการโจทก์ ได้สืบพยานไปทั้งสิ้น 8 นัด ร่วม 20 ปาก ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่และพนักงานสอบสวน ขณะที่นายสุพจน์ อดีตปลัดคมนาคม ผู้เสียหายที่ได้เป็นโจทก์ร่วม ก็ได้เบิกความเป็นพยานไปแล้ว