ร้องมูลนิธิปวีณาถูกลวงขายตัวแอฟริกาใต้
เหยื่อถูกล่อลวงขายตัวแอฟริกาใต้ ขอบคุณมูลนิธิปวีณาช่วยกลับไทย
เหยื่อถูกล่อลวงขายตัวแอฟริกาใต้ ขอบคุณมูลนิธิปวีณาช่วยกลับไทย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี น.ส.ครีม (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี “เหยื่อ” ผู้เสียหายที่ถูกล่อลวงไปค้าประเวณีที่แอฟริกาใต้ ได้เดินทางพร้อมนางประไพ (นามสมุติ) อายุ 47 ปี มารดา เข้าขอบคุณนางปวีณา หงสกุลประธานมูลนิธิฯ หลังจากที่นางปวีณาได้ช่วยประสานกรมการกงสุลจนช่วยเหลือกลับมาได้
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา นางประไพ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี อาชีพทำไร่ ได้เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ว่า ลูกสาวชื่อ น้องครีม (นามสมมุติ ) อายุ 20 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่แอฟริกาใต้ โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 56 อยากให้นางปวีณา ช่วยพากลับบ้านด้วย โดยก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานเป็นสาวเสริฟอยู่พัทยา โทรมาหาว่ากำลังจะเดินทางไปแอฟริกาใต้กับเพื่อนรุ่นพี่ ไม่ต้องห่วง เมื่อไปถึงจะมีคนมารับ จากนั้นอีก 2 วันต่อมา ลูกสาวโทรมาหาบอกว่า ไปถึงแล้วถูกบังคับให้ขายตัว แต่ไม่อยากทำอยากกลับบ้าน ตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จึงเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา
เมื่อรับเรื่องไว้แล้วนางปวีณาได้เร่งประสานกับนายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุลอย่างเร่งด่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯได้พานางประไพ (นามสมมุติ) ไปพบผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุลเพื่อให้ข้อมูลเพื่อดำเนินการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
ต่อมาวันที่ 7 ก.พ. นางสาวครีม “เหยื่อ” ที่ถูกหลอกค้าประเวณีที่แอฟริกาใต้ได้รับการช่วยเหลือละเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 992 โจฮาย-กรุงเทพ หลังจากที่เดินทางกลับถึงบ้านเกิดได้ขอเข้าพบนางปวีณา ประธานมูลนิธิฯ เพื่อขอบคุณที่ช่วยดำเนินการช่วยเหลือจนได้กลับบ้าน
น.ส.ครีม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่พัทยาและได้รู้จักกับนางมีนา อายุประมาณ 26 ปี ซึ่งเพื่อเป็นคนแนะนำให้รู้จักอีกที ชักชวนให้ไปทำงานเป็นพนักงานเสริฟที่ประเทศแอฟริกาใต้ โดยจะได้ค่าตอบเดือนละ 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเลย จึงตกลงใจเดินทางไป แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่งตนไม่อยากทำ อยากจะกลับบ้าน แต่ทางแม่ดา (ชาวจีนผู้ที่คอยดูแล) บอกว่าจะต้องหาเงินจำนวน 2.8 แสนบาทมาให้เพื่อเป็นการไถ่ โดยอ้างว่าเป็นค่าตั๋วเครื่องบินและค่าจัดการในการเดินทางมาทำงาน ตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เมื่อมีโอกาสจึงแอบโทรศัพท์ติดต่อกับแม่เพื่อขอให้ช่วยเหลือโดยด่วน
"อยู่ที่นั่นถูกบังคับให้อยู่ในห้องแคบๆ เหมือนห้องเก็บของ และต้องคอยทำงานบ้าน หุงข้าว กวาด ถู ต่างๆ ถือว่าลำบากมาก บางวันก็ไม่ได้กินข้าวเลย หรืออาจจะได้กินมื้อเดียว บางทีก็มีแค่ไข่ 2 ใบโดยให้ไปทำกินเอง ชีวิตนี้ไม่คิดจะไปอีกแล้วอยู่บ้านเราและหางานทำดีกว่าถึงแม้ว่าจะได้เงินไม่มากก็ตาม บางครั้งคนที่เข้ามาหลอกลวงเราก็จะสร้างฝันให้เห็นว่าเป็นงานสบาย ได้เงินเยอะ แต่จริงๆแล้วไม่ต่างกับนรก”
นางปวีณา กล่าวว่า ทุกวันนี้ยังมีหญิงไทยอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ต่างแดน และต้องทนทุกข์ทรมาน อยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนร่วมกันรณรงค์และขอขอบคุณสื่อที่ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อให้สังคมรับรู้ว่ามีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง