posttoday

จับแก๊งเขมรลอบตัดไม้พะยูงในไทย

03 กุมภาพันธ์ 2556

เจ้าหน้าที่บุกจับกลุ่มชาวเขมรกลางป่าหลังลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในเขตแดนไทยในพื้นที่ จ. สุรินทร์

เจ้าหน้าที่บุกจับกลุ่มชาวเขมรกลางป่าหลังลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงในเขตแดนไทยในพื้นที่ จ. สุรินทร์

เมื่อวันที่ 3 ก.พ. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร  นำโดย  ร.ต.อ.มนัส  ทองปน รอง ผบ.ร้อย ตชด.214  นำกำลังเข้าจับชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงบริเวณป่าห้วยทรัพย์ตะเคียนใกล้กับ วัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ประมาณ 15 กิโลเมตร จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนไม้พะยูงเหลี่ยม  ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาได้  3 รายขณะลำเลียงไม้พะยูงเหลี่ยม ด้วยการแบกสะพายหลัง ทราบชื่อ คือ นายเมี๊ยก  แก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเนี๊ยกเวียง ต.สะเดา อ.บาราย จ.กัมปงทม ,นายนึม  เนตร  อายุ 31 ปี อยู่บ้านตูลสวาย ต.ตะเปียงเตา อ.อัลลองเวง  จ.อุดรมีชัย  และนายเรือน  สุเพียบ  อยู่บ้าน ปรีสมัช ต.เมียนเจย  อ.อุดง จ.กัมปงสะปือ พร้อมของกลางไม้พะยูง  12 เหลี่ยม มูลค่า 3 แสนบาท

ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่ามีเพื่อนชาวกัมพูชาเข้ามาลักลอบตัดไม้ร่วมกันในครั้งนี้ประมาณ 20 คน และได้วิ่งหนีการจับกุมไปได้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไทยบุกจับ  ส่วนค่าจ้างที่ได้รับหากแบกไปส่งถึงนายทุนในฝั่งกัมพูชาที่มารอรับซื้อได้ ราคาอยู่ที่ 2000-2,500 บาท ต่อท่อน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโรฯระหว่างที่ดักซุ่มเตรียมจับกุม ยังพบว่ามีกองกำลังคุ้มกัน 2 นาย สวมหมวกและชุดคล้ายทหารกัมพูชาทหารกัมพูชา เดินนำหน้าคุ้มกันชาวกัมพูชากลุ่มนี้อีกด้วย  ซึ่งได้วิ่งหนีเข้าไปไปได้ ทิ้งหลักฐานไว้คือหมวกคล้ายหมวกทหารกัมพูชาไว้ 2 ใบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงไม้พะยูงของกลางออกมาจากป่าด้วยความทุลักทุเลเนื่องจากเป็นป่าลึก พร้อมนำตัวผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 3 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บัวเชดฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

เจ้าหน้าที่ไทย ระบุว่าในระยะนี้พบชาวกัมพูชาข้ามพื้นที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในป่าเขตไทยถี่มากขึ้นในลักษณะกระจายตัดแบบกองทัพมด  เนื่องจากมีราคาสูง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สภาพป่าสมบูรณ์และถือว่าเป็นป่าที่มีไม้พะยูงอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย  ทำให้เป็นเป้าหมายของนายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ต้องการไม้พะยูงส่งไปขายในต่างประเทศซึ่งมีราคาสูงมากกว่านี้หลายเท่าตัว 

ทั้งนี้หากรัฐบาลยังไม่ให้ความสำคัญและหาวิธีแก้ปัญหา ไม้พะยูงก็อาจค่อยๆหมดไปได้ในอนาคต  จากทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอและงบประมาณสนับสนุนรวมทั้งการเอาจริงเอาจังต่างๆจากหน่วยงานระดับภาครัฐบาล