แก๊งหน้าม้าต่อทะเบียนรถลวงออกเอกสารปลอม

โดย...ธนก บังผล

รออีกไม่กี่อึดใจ ประเทศไทยจะมีรถใหม่ออกมาวิ่งกันเกลื่อนมากกว่า 1.2 ล้านคัน หลังจากคนเฮโลไปจองมากเป็นประวัติการณ์

แยกแยะเป็นประเภทแล้ว รถยนต์นั่ง 7.4 แสนคัน รถกระบะ 2.58 แสนคัน รถยนต์นั่งที่มีกระบะ หรือดับเบิลแค็บอีก 2.57 แสนคัน คาดกันว่าจะต้องใช้เงินคืนภาษีรถยนต์คันแรกประมาณ 33.5 หมื่นล้านบาท และใช้งบอีกบางส่วนในปี 2558 เรียกได้ว่าต้องเอางบผูกพันกันไปจนรัฐบาลนี้หมดวาระ

เมื่อคนมีรถใหม่มากขึ้น โจรขโมยก็จ้องตาไม่กะพริบ แต่ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าเดิมสำหรับมือใหม่หัดขับนั้น คือการต่อทะเบียนรถ การจ่ายภาษี หรือธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องติดต่อกับกรมการขนส่งทางบก

ซึ่งที่ผ่านมาได้ตกเป็นข่าวฮือฮา หลังจากมีเหลือบไรฉวยโอกาสเข้าไปดักรอรถยนต์ที่เลี้ยวเข้าไปยังกรมการขนส่งทางบก ทำทีว่าจะดำเนินเรื่องการต่อทะเบียนให้บ้าง หรือเสียภาษีให้ โดยคิดค่าธรรมเนียมค่าเสียเวลาเดิน

จากสถิติเฉพาะ 4 เดือนแรกของปี 2555 จับกุมมิจฉาชีพส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเกือบ 70 ราย

9 เดือนแรกของปี 2555 จับกุมมิจฉาชีพส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกว่า 150 ราย จนล่าสุดผลการดำเนินการระหว่างเดือน ม.ค.-พ.ย. 2555 สามารถจับกุมผู้ที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อน รำคาญ ให้กับผู้มาติดต่อราชการภายในกรมการขนส่งทางบกได้จำนวน 197 ราย

เห็นตัวเลขของจำนวนที่จับกุมเหลือบไรพวกนี้แล้ว แสดงว่ามิจฉาชีพทำกันเป็นแก๊งและมีจำนวนมาก

แน่นอนว่า การกระทำความผิดซึ่งหน้าในสถานที่ราชการ ย่อมร้อนถึง สมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ที่ต้องออกมาสั่งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมฉ้อฉลและหลอกลวงประชาชนที่มาติดต่อราชการกับกรมการขนส่งทางบกตามจุดต่างๆ ภายในบริเวณกรมการขนส่งทางบก ด้วยการขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งจัดชุดตรวจการออกปฏิบัติภารกิจดังกล่าวร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง

ผลการดำเนินงานจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ด้วยการใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถผิดกฎหมายมาติดตั้ง มี 24 ราย และจับกุมผู้นำรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาวิ่งรับจ้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 440 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินการตามกฎหมายทุกราย

แม้ว่าจะดูเป็น “วัวหายล้อมคอก” แต่อย่างน้อยตั้งแต่ 17 ธ.ค.. 2555 ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกเองก็ได้เข้มงวดป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาหลอกลวงประชาชนที่ติดต่อราชการ โดยออกมาตรการตรวจเข้มบัตรประจำตัวของผู้จำหน่ายรถที่มาติดต่อราชการ อีกทั้งขอให้ตัวแทนทุกคนต้องติดบัตรในการติดต่อราชการทุกครั้ง

นอกจากนี้ ยังขอให้ สน.บางซื่อ เพิ่มโทษด้วยการเปรียบเทียบปรับในอัตราที่สูงขึ้น สำหรับผู้ที่กระทำความผิดซ้ำซาก พร้อมบันทึกประวัติเพื่อการเฝ้าระวังด้วย รวมถึงการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อให้คำแนะนำและรับแจ้งเหตุจากประชาชนที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง ณ บริเวณด้านหน้าอาคาร 4 กรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที

หากใครเคยไปที่กรมการขนส่งทางบก ก็อาจจะเคยพบกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในรูปแบบต่างๆ เช่น การขับขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถยนต์ที่ขับผ่านสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร โดยจะสังเกตว่ารถคันไหนเตรียมชิดซ้ายเพื่อจะเลี้ยวเข้ากรม ก็จะเข้าประกบเคาะกระจกรถยนต์ ทำเป็นถามว่ามาติดต่อราชการอะไร ต่อใบขับขี่ หรือต่อภาษี หลังจากนั้นก็จะอาสาดำเนินการให้ โดยเรียกเงินเป็นค่าตอบแทน

หรือบางกรณีอาจจะจอดรถจักรยานยนต์ดักรออยู่บริเวณประตูทางเข้ากรมเพื่อตามประกบผู้ที่ขับรถเข้ามาภายใน ก่อนจะรับอาสาเดินเรื่องให้ เหมือนดักปล้นกันชัดๆ

ซึ่งเหลือบไรเหล่านี้ล้วนเอาข้อเสียของคนที่ขี้เกียจรอ ขี้เกียจต่อคิว ขี้เกียจเดินเรื่องเอง รักสะดวกสบาย ชอบให้คนอื่นบริการมาเป็นจุดขาย

ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มมิจฉาชีพที่ยึดหัวหาดในกรมการขนส่งทางบกไม่ทัน ก็จะแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของวินมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งการเดินประกบประชาชนจากบริเวณด้านนอก ซึ่งหากหลงเชื่อนอกจากต้องเสียทรัพย์สินแล้วยังอาจได้รับเอกสารปลอมด้วย หากนำไปใช้จะมีความผิดตามกฎหมายฐานใช้เอกสารราชการปลอม

หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกมีนโยบายให้ประชาชนสามารถชำระภาษีรถและทำใบอนุญาตขับรถได้อย่างสะดวก โดยจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกให้บริการ รับชำระภาษีรถและทำใบอนุญาตขับรถตามแหล่งชุมชน หรือพื้นที่ห่างไกล

โจรพวกนี้เลยบังเกิดไอเดียเลวๆ ไปตั้งโต๊ะหรือเคาะประตูบ้านหลอกลวงประชาชนว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก มาให้บริการรับชำระภาษีรถหรือทำใบอนุญาตขับรถ

ซึ่งเอกสารที่มิจฉาชีพออกให้เป็นเอกสารปลอม ที่ผ่านมามีผู้ถูกหลอกลวง ต้องเสียเงินและเอกสารสำคัญแล้วหลายราย

วิธีสังเกตว่ากลุ่มไหน 18 มงกุฎ ใครตัวจริงตัวปลอม กรมการขนส่งทางบกเปิดเผยว่า การเปิดรับชำระภาษีรถและทำใบอนุญาตขับรถได้ทุกสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ กับจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ ออกรับชำระภาษีรถตามห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งชุมชน ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาคนั้น

ในส่วนภูมิภาค สำนักงานขนส่งจังหวัดจะประสานงานกับห้างสรรพสินค้าหรือองค์กรส่วนท้องถิ่น ให้บริการแก่ประชาชน โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบล่วงหน้าว่าสามารถไปใช้บริการได้ในวันเวลาหรือสถานที่ใด และจะมีเจ้าหน้าที่แต่งชุดข้าราชการพร้อมป้ายประชาสัมพันธ์แสดงอยู่เห็นอย่างชัดเจน

กรรมของคนมีรถชัดๆ ที่นอกจากจะต้องระวังรักษาไม่ให้ถูกโจรกรรมแล้ว ยังจะมาถูกหลอกให้เสียเงินค่านู่นนั่นนี่มากมาย ...ในกรมการขนส่งทางบกเลยด้วยซ้ำ