posttoday

มท.1สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศลุยจัดระเบียบสังคม

16 มกราคม 2556

มท.1 ฟิตสั่ง ผู้ว่าฯทำนโยบายจัดระเบียบสังคมให้เห็นผล เน้นลดปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มท.1 ฟิตสั่ง ผู้ว่าฯทำนโยบายจัดระเบียบสังคมให้เห็นผล เน้นลดปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า  เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามนโยบายจัดระเบียบสังคมของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน กระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดให้ความสำคัญในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี รวมถึงเข้มงวดกวดขันในพื้นที่ห้ามขาย ห้ามดื่ม อาทิ สถานที่ราชการ สถานศึกษา สวนสาธารณะ และวัด

นอกจากนั้น ต้องประชาสัมพันธ์ให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน ได้รับทราบและถือปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ ทั้ง 3 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ 1. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง พ.ศ. 2555 (ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถขณะวิ่งบนทาง) 2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ. 2555 และ 3. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดสถานที่หรือบริเวณ ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ พ.ศ. 2555

รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด เร่งเดินหน้าจัดระเบียบสังคมในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับอำเภอจะต้องลงไปกวดขันสถานบริการในพื้นที่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านเหล้า  ผับ บาร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณรอบสถานศึกษาไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย หรือเป็นแหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชนอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม รวมไปถึงต้องเร่งรณรงค์สร้างจิตสำนึกและค่านิยมให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันทำให้การจัดงานบุญประเพณี อาทิ งานศพ งานบวช และงานบุญอื่นๆเป็นงานบุญที่ปลอดเหล้า โดยเฉพาะนายอำเภอจะต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนกลไกหน่วยงานต่างๆ ให้ภาคประชาสังคมในระดับพื้นที่ ให้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อเปลี่ยนแปลงค่านิยมงานบุญปลอดเหล้าในพื้นที่ร่วมกัน โดยกระทรวงมหาดไทยจะติดตามผลอย่างต่อเนื่อง