ตร.ประจำ4จุดสำคัญจัดเคาท์ดาวน์ในกทม.

ตำรวจนครบาลระดมกำลัง6กองร้อยประจำ4จุดสำคัญดูแลความปลอดภัยสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์
สนามหลวงส่วนหนึ่งสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ ขอบคุณภาพจาก pic.twitter.com/GzLZ6VRm

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจความพร้อม เพื่อดูแลรักษาความความปลอดภัย พื้นที่จัดงานงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

พลตำรวจเอกปานศิริ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน ซึ่งจะใช้กำลังตำรวจนครบาล กว่า 3,000 นาย ในการดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ รวมถึงจุดสูงข่ม 48 จุด ส่วนในพื้นที่จัดงานอื่น ๆ อาทิ คริสตัลพาร์ค เอเชียทีค จะใช้กำลังประมาณ 1,000 นาย

ขณะที่บริเวณสนามหลวง ซึ่งจัดงานสวดมนต์ข้ามปี จะใช้กำลังประมาณ 500 นาย ทั้งนี้ ทุกพื้นที่จัดงานเจ้าหน้าที่จะตรวจตราอาวุธอย่างเข้มงวด และขอให้ประชาชน ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าร่วมงาน ซึ่งยืนยันว่า ตำรวจจะดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ จนกว่าประชาชนเดินทางออกจากพื้นที่จัดงานทั้งหมด
         
ส่วนการจัดการจราจรจะปิดถนนบริเวณแยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ ไปจนถึงแยกประตูน้ำ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. และจะพิจารณาปิดการจราจรส่วนอื่นเพิ่มเติมตามความเหมาะสม

พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึง การเตรียมพร้อมในการดูแลความสงบเรียบร้อยในคืนนี้ว่า จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 6 กองร้อย ประจำบริเวณ 4 จุดสำคัญ ที่จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ได้แก่

1.บริเวณเ 4 ซ็นทรัลเวิลด์ 2. เอเชียทีค 3.สนามหลวง และ 4.ซีดีซี พร้อมกับเฝ้าฟังสถานการณ์อีก30 กว่าจุดทั่วกรุงเทพฯ ผ่านระบบไลน์(Line) เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์และแก้ไขปัญหาด้านการจราจรได้ทันท่วงทีหากมีเรื่องเกิดขึ้น โดยตั้งแต่เวลา 14.00 น. วันนี้จะเริ่มซักซ้อมทบทวนการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และอยู่ประจำการไปตลอดทั้งคืน

ส่วนพื้นที่จุดเสี่ยง อย่าง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่เคยเกิดเหตุระเบิด และพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้มอบหมายให้ตำรวจ ในพื้นที่แต่ละแห่งจัดกำลังรับผิดชอบในการดูแลความปลอดภัยแล้วเช่นกัน
         
บช.น. ยังประชาสัมพันธ์ ขอให้ประชาชนผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรมนับถอยหลัง(เคาท์ดาวน์)ในสถานที่ต่างๆที่มี การจัดงานปีใหม่ ควรเดินทางโดยใช้ระบบขนส่งสาธารณะจะได้รับความสะดวกมากกว่า และควรวางแผนการเดินทางก่อนออกเดินทางทุกครั้ง หรือสามารถสอบถามเส้นทางเลี่ยงได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หมายเลขโทรศัพท์ 1197 หรือ www.trafficpolice.go.th ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บก.02

ภาพ/ประกฤษณ์ จันทะวงศ์