posttoday

ผบ.ทบ.วอนครูใต้ร่วมมือจนท.

30 พฤศจิกายน 2555

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนใต้ต้องรอบคอบ พ้อเจ้าหน้าที่ทำงานยาก วอนครูใต้ร่วมมือเพื่อความปลอดภัย

พล.อ.ประยุทธ์  ชี้ประกาศยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนใต้ต้องรอบคอบ พ้อเจ้าหน้าที่ทำงานยาก วอนครูใต้ร่วมมือเพื่อความปลอดภัย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวภายหลังร่วมประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงโครงสร้างการทำงาน และเรื่องการต่ออายุประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 (พ.ร.บ.มั่นคง) ในพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และ 4 อำเภอใน จ.สงขลา ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยในเรื่องแผนงานที่มีอยู่เดิมแล้ว อาทิ พื้นที่ใดที่เคยมีการใช้กฎหมายพิเศษ 3 ฉบับ ได้แก่ กฎอัยการศึก พ.ร.บ.มั่นคง และพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) หากพื้นที่ใดสถานการณ์หนักอยู่ก็ต้องใช้กฎอัยการศึกคู่กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากสถานการณ์เบาลงก็จะลดจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็น พ.ร.บ.มั่นคง เพื่อให้เอื้อประโยชน์ต่อการแสวงหาทางออก ในการใช้มาตรา 21 ของ พ.ร.บ.มั่นคง ที่ว่าด้วยการเปิดโอกาสให้กลับใจเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีพื้นที่ใดที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับลดระดับความเข้มข้นของกฎหมายลงอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำหนดประเมินอยู่ เพราะความเป็นจริงเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการใช้กฎหมายพิเศษใดๆ แต่มีปัญหาในขั้นตอนการสืบสวนที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาที่กฎหมายปกติให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทำงานน้อยมาก ซึ่งการทำคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงนั้นต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามแม้มีข้อมูลในเรื่องการประกาศปรับลดใช้กฎหมายในพื้นที่ต่างๆอยู่ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ เพราะอาจทำให้มีการก่อเหตุขึ้นอีก ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ หากลดลงจนเห็นได้ชัดในห้วงระยะเวลาที่เราประเมิน 6 เดือนถึง 1 ปี ถ้าไม่มีเหตุการณ์หรือลดน้อยลงจนเกือบไม่มีเลย ก็จะลดระดับการใช้กฎหมายลงได้ แต่หากรีบร้อนจนเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีก อาจเป็นแผนลวงก็เป็นได้

“การเลิกใช้กฎหมายทำได้ง่าย แต่การประกาศใหม่ทำได้ยาก ต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นคนประเมิน ปีที่ผ่านมามีคดีเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ทั้งหมด 9,000 กว่าคดี แต่เป็นคดีความมั่นคงเพียง 1,000 พันกว่าคดี ที่เหลือเป็นอาชญกรรมทั่วไป ตรงนี้เป็นข่าวดีที่แสดงให้เห็นว่าความรุนแรงและโจรลดลง แต่อีกด้านกำลังเจ้าหน้าที่ก็กลับถูกลดลงเช่นกัน และใช้กฎหมายที่อ่อนลง เพราฉะนั้นหากเหตุการณ์ไม่ลด แต่กลับลดอำนาจเจ้าหน้าที่ หากเกิดเรื่องใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ยืนยันว่าเราไม่สามารถใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาภาคใต้ได้ หากเราใช้กำลังขนาดใหญ่เข้าไปปิดล้อมตรวจค้นทุกหมู่บ้านทุกตำบล มันสุ่มเสี่ยง ตอนนี้เราใช้กำลังทหารที่มีอยู่ไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย และช่วยในการบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น ไม่ได้ไปไล่ล่าคนร้าย” ผบ.ทบ. ระบุ

เมื่อถามถึงมาตรการการดูแลครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ตกเป็นเป้าการก่อเหตุรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยและปรับเข้าหากันระหว่างครูกับทางเจ้าหน้าที่ เพราะครูไม่ได้อาศัยอยู่รวมกันจุดเดียว แต่กระจายไปทั่วพื้นที่ ก็ได้มีการทำบัญชีบ้านพักที่อยู่อาศัยไว้ และเตือนกันว่าวันนี้ครูถือเป็นเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง การดูแลที่ง่ายที่สุดคือให้ครูทั้งหมดมาอยู่รวมกัน ให้เจ้าหน้าที่ดูแลทั้งหมด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องอยู่กระจายออกไป ซึ่งก็ต้องมีการประสานกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ดูแลในพื้นที่ให้ชัดเจนว่าจะไปไหนอย่างไร ทั้งนี้จากการพูดคุยสิ่งใดที่ฝ่ายครูต้องการ ทางเจ้าหน้าที่ก็ปรับเพิ่มให้ บางสิ่งไม่สามารถทำได้ก็ขอความร่วมมือกัน

“บางโรงเรียนบางพื้นที่ที่มีเหตุการณ์รุนแรงก็อาจจะต้องนอนที่โรงเรียน หรือถ้าใครสมัครใจอยู่เพื่อลดความเสี่ยงของตัวเอง ก็ถือว่าลดงานของเจ้าหน้าที่ไปบ้าง ส่วนผู้ที่ต้องเดินทางกลับก็ขอให้รวมตัวกันและไปกลับในเวลาที่กำหนด เพราะที่เสียชีวิตส่วนใหญ่มักไปในเส้นทางที่ไม่ได้กำหนด หรือไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลเพราะกลัวเป็นเป้า สรุปว่ามีความอันตรายจึงต้องระมัดระวัง และปรับกันใน 3 ข้อหลักคือ 1.การทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและพลเรือน 2.การติดกล้องวงจรปิดที่ยังไม่เรียบร้อยดี และ 3.เรื่องของการดูแลสวัสดิภาพ สิทธิของครู” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวต่อไปว่า วันนี้ตำรวจทหารได้เบี้ยเลี้ยงประจำวัน 200 กว่าบาทและประจำเดือนอีก 3,500 บาท ก็ทราบมาว่าขณะนี้ครูขอปรับขึ้นมาเท่ากัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับทางคณะรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจตัดสินใจในการพิจารณา ส่วนตัวเห็นว่าสิ่งใดที่เป็นผลดีต่อเจ้าหน้าที่ ประชาชน และบุคลากร แต่ก็ต้องหาสิ่งที่จะมารองรับให้ได้ เพราะจะมีเรื่องของงบประมาณและระเบียบต่างๆตามมา หากต่างฝ่ายต่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็จะมีปัญหา รัฐบาลต้องแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้ลงนามแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมเพื่อหารือกันอีกครั้งในเรื่องการทำงานที่จังหวัดชายแดนใต้