ลอยกระทงให้สนุก อย่าทุกข์เพราะอุบัติเหตุ

เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงวันลอยกระทงปีนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า จะมีผู้ออกมาร่วมสนุกในเทศกาลนี้ถึง 62% ส่วนที่เหลือ 35% จะไม่ลอยกระทง เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย

โดย...ธนก บังผล

ก็ว่ากันไป ในเศรษฐกิจปากท้องอย่างนี้ กระทงธรรมชาติอาจจะแพงก็ได้

จากการประเมินมูลค่าการใช้จ่าย คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27.5% หรือมีเงินสะพัดมากถึง 1.07 หมื่นล้านบาท

ก่อนจะออกไปน้ำนองเต็มตลิ่ง บ้านใครใกล้สนามบิน ทางท่าอากาศยานไทยส่งความเป็นกังวลเล็กน้อย เพราะประชาชนนิยมปล่อยโคมลอยเฉลิมฉลอง

“หากปล่อยโคมลอยในพื้นที่โดยรอบบริเวณดังกล่าว อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินได้ ดังนั้นจึงอยากจะขอความร่วมมือกับประชาชนที่อยู่โดยรอบบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อย่าปล่อยโคมลอย จุดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือบั้งไฟ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเครื่องบิน ชีวิต และทรัพย์สินของบุคคลอื่น และทำให้เสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้” วิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย ฝากมา

ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บอกอีกว่า ในพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานรัศมี 18 กิโลเมตร กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ได้ประกาศให้เป็นเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ ซึ่งหากหน่วยงานใดประสงค์ที่จะปล่อยโคม จุดพลุ ดอกไม้ไฟ บั้งไฟ หรือกระทำการอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าว ต้องได้รับอนุญาตจากศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศสุวรรณภูมิเสียก่อน และอย่างน้อยต้องขออนุญาต 7 วัน ก่อนวันดำเนินการ

ว่ากันเรื่องอุบัติเหตุ ปีนี้ยังไม่ถึงเทศกาลลอยกระทง ก็เกิดประทัดระเบิดมือฉีกขาดกันไปแล้ว

โดยทุกปีมักจะเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นดอกไม้เพลิง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ออกมาเตือนก็ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่าเก็บดอกไม้ไฟไว้ในเสื้อหรือกางเกงโดยเด็ดขาด เนื่องจากหากเกิดการเสียดสีจนเกิดความร้อน อาจทำให้เกิดระเบิดขึ้นได้จนได้รับบาดเจ็บ

ย้ำว่าผู้ชายห้ามเก็บประทัดไว้ในกางเกงเด็ดขาด เดี๋ยวจะไม่เหลืออะไรเลย

นอกจากนี้ ขณะเล่นพลุหรือดอกไม้ไฟ ก็ไม่ควรสูบบุหรี่ พร้อมทั้งควรเตรียมถังน้ำไว้ใกล้ๆ หากเกิดเพลิงไหม้จะได้สามารถดับไฟได้อย่างทันท่วงที

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ควรปล่อยเด็กเล่นดอกไม้ไฟตามลำพัง ส่วนสถานที่เล่น ก็ควรเป็นที่โล่ง ห่างจากกลุ่มคนและบ้านเรือนประชาชน สถานบริการน้ำมันและเสาไฟฟ้า รวมทั้งไม่เล่นบริเวณที่มีลมพัดแรง เพื่อป้องกันประกายไฟที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลามได้

สถิติปี 2554 ที่ผ่านมา นพ.วิชัย ขัตติยวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นดอกไม้ไฟในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีที่แล้ว รวมทั้งสิ้น 10 ราย ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ตามลำตัว และนิ้วมือขาด ซึ่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 5-10 ขวบ

นี่จึงเป็นสถิติที่ผู้ปกครองควรเข้มงวดกับการดูแลบุตรหลานที่ยังเด็กอยู่ ยิ่งเด็กเล่นกันหลายคน ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง

เช่นเดียวกับ พรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงเป็นประเพณีสำคัญของไทย ที่คนไทยจะต้องเฉลิมฉลอง แล้วมักจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้อง นำมาซึ่งอุบัติเหตุ ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

ข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุจราจรใน 76 จังหวัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พบว่าเดือน พ.ย. เป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมาเป็นอันดับ 3 คือ 9,658 ครั้ง ซึ่งมากกว่าเดือน เม.ย. ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอันดับ 1 คือ เดือน ธ.ค. มีจำนวน 11,007 ครั้ง และอันดับ 2 คือ เดือน ม.ค. มีจำนวน 11,993 ครั้ง

ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กล่าวอีกว่า อุบัติเหตุในเดือน พ.ย. มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากถึง 1,122 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 1,547 คน ซึ่งสาเหตุสำคัญ คือ การเดินทางไปเที่ยววันลอยกระทง แล้วดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากนี้ ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าผู้บาดเจ็บรุนแรงจากการถูกเปลวหรือสะเก็ดดอกไม้ไฟในวันลอยกระทงนั้น 30.8% คือผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถิติในช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2554 พบว่าในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 40 แห่ง ใน จ.เชียงใหม่ มีผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุจากประทัดและดอกไม้ไฟจำนวนทั้งสิ้น 136 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องส่งต่อเพื่อรับการรักษาและรับไว้เป็นผู้ป่วยในจำนวน 21 ราย

อวัยวะของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด ได้แก่ บริเวณมือ แขน ขา และเท้า ร้อยละ 57.35 รองลงมา ได้แก่ บริเวณใบหน้า ตาและหู ร้อยละ 24.26 และบริเวณศีรษะและคอ ร้อยละ 6.62

ส่วนกลุ่มอายุและเพศ ผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุประทัดและดอกไม้ไฟ พบสูงสุดในกลุ่มอายุ 10-14 ปี (20 ราย) 15-19 ปี (18 ราย) และ 20-24 ปี (16 ราย) ตามลำดับ เป็นเพศชาย 108 ราย และเพศหญิง 28 ราย

อีกประเด็นที่ต้องระวัง คือ ระหว่างที่ออกไปลอยกระทง ระวังมิจฉาชีพลักทรัพย์ เนื่องจากสถานที่มีคนจำนวนมาก เอื้อโอกาสให้โจรรวมทั้งขโมยขึ้นบ้านนะฮ้าฟฟฟฟฟ

บาดเจ็บ...ถือบัตรประชาชนเข้าโรงพยาบาล

ในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวยังที่ต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้สูงกว่าช่วงปกติ รวมถึงอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ

ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างถิ่น หากประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ที่สถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนทุกแห่ง ใกล้สถานที่เกิดเหตุได้ทันที

ทั้งนี้ นอกจากแสดงบัตรประจำตัวประชาชนเพียงใบเดียวแทนบัตรทองได้แล้ว ยังสามารถใช้ บัตรเหลือง ใบขับขี่ หรือบัตรอื่นๆ ที่ทางราชการออกให้ มายื่นขอใช้สิทธิทดแทนบัตรประจำตัวประชาชนได้ด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ระมัดระวัง อย่าให้เกิดเหตุดีกว่า เดี๋ยวลอยกระทงจะไม่สนุก