posttoday

จับหนุ่มโรคจิตงัดเซฟบ.จิวเวลรี่-ขโมยกกน.5พันตัว

16 พฤศจิกายน 2555

ผบช.น. แถลง รวบโจรงัดเซฟบ.จิวเวลรี่ แถวดอนเมืองสูญ10ล.แถมโรคจิตขโมย กกน.5 พันตัว

ผบช.น. แถลง รวบโจรงัดเซฟบ.จิวเวลรี่ แถวดอนเมืองสูญ10ล.แถมโรคจิตขโมย กกน.5 พันตัว

เมื่อเวลา 10.00 น.  ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายดนัย รายเวทย์ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2015/2555ลงวันที่ 15 พ.ย. 2555 ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน พร้อมของกลางอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ อาทิ ชะแลงหัวงอ ใบเลื่อย ไขควง คีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ หมวกไหมพรหม ถุงมือ แหวนสีเงิน 1 วง ต่างหู 1 คู่ รถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ชธ 9304 กรุงเทพมหานคร และชุดชั้นในสตรีจำนวนกว่า 5 พันตัว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกของวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเข้าไปงัดเซฟภายในบริษัท บาเซล จำกัด เลขที่ 161/207-9 ม.บัณฑิตโฮม ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นบริษัทจิวเวลรี่ของนายณรงค์ หรรษานนท์ อายุ 49 ปี โดยคนร้ายกวาดทรัพย์สินไปกว่า 10 ล้านบาท หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งหาเบาะแสของคนร้ายและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน กระทั่งเจ้าหน้าที่กก.สส.บก.น.2 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้คือนายดนัย มีพฤติกรรมก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ประกันตัวแล้วหลบหนีไปก่อเหตุซ้ำอีก

ด้านพล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า ชุดสืบสวนได้หาเบาะแสจากกล้องวงจรปิดนับร้อยตัว และนำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายในภาพไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องหาคดีงัดเซฟในพื้นที่อื่น จนทราบว่าคนร้ายคือนายดนัย นอกจากนี้ยังมีกล้องตัวหนึ่งจับภาพรถยนต์ของคนร้ายเอาไว้ได้ เมื่อตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีการผลิตและใช้ในประเทศไทยเพียง 671 คัน และมีน.ส.ปุณยวีร์ สีแป้น น้องสาวของนายดนัยเป็นผู้ครอบครอง จึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.นิมิตรใหม่ และนำหมายค้นเดินทางไปตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 18/3 ซอยเลียบคลองสอง 25 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา พบนายดนัยพักอาศัยอยู่ภายในบ้าน แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุมนายดนัยได้ใช้เชือกโรยตัวลงมาจากบ้านขั้น 2 เพื่อจะหลบหนี แต่เกิดพลาดตกลงมาทำให้บาดเจ็บขาหัก จากการตรวจค้นพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการงัดแงะ และทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์จำนวนมาก โดยมีทรัพย์สินที่นายดนัยลักทรัพย์มาจากพื้นที่สน.พลับพลาไชย 1 ด้วย ซึ่งตรวจยึดไปไม่หมด เพราะผู้ต้องหาเอาไปฝากไว้กับภรรยาน้อย นอกจากนี้ยังพบชุดชั้นในสตรีกว่า 5 พันตัว อยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า

พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อคดีมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อปี2553ก่อเหตุในพื้นที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ปลายปี 2554ก่อเหตุในพื้นที่สน.พลับพลาไชย 1 แต่ประกันตัวและอยู่ระหว่างการหลบหนี ล่าสุดกลับมาก่อเหตุซ้ำในพื้นที่สน.ดอนเมือง 2 คดี ขณะนี้ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลไปถึงร้านรับซื้อในย่านฝั่งธนบุรีแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามของกลาง ซึ่งหลังจากที่ผู้ต้องหาขายทรัพย์สินไปก็นำเงินไปเล่นการพนันที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ผู้ต้องหาเรียนรู้วิธีการงัดเซฟระหว่างที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำลาดยาว โดยจะต้องล้มเซฟที่มีน้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัมให้ได้เสียก่อน จากนั้นก็จะใช้ใบเลื่อยและชะแลงงัดเซฟเอาทรัพย์สินไป ทุกครั้งที่ก่อเหตุผู้ต้องหาจะต้องใส่เสื้อสีแดงทุกครั้งเพราะชอบสีแดง และยังตระเวนขโมยชุดชั้นในของสตรีที่ตากเอาไว้ตามอพาร์ทเม้นท์ มาสะสมไว้ โดยอ้างว่าเป็นความชอบส่วนตัว ซึ่งจะเลือกช่วงเวลากลางดึกที่ประชาชนเข้านอนแล้ว

จากการสอบสวนนายดนัย ให้การรับสารภาพว่า เข้าไปลักทรัพย์ในบริษัทจิเวลรี่จริง และก่อเหตุเพียงคนเดียว เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายให้กับนายแหล่ ที่ย่านสำเหร่ ได้เงินสดประมาณ 450,000 บาท เมื่อได้เงินก็รีบขับรถเก๋งไปที่จ.สระแก้ว เพื่อข้ามฝั่งไปเล่นการพนันที่ประเทศเขมร ส่วนชุดชั้นในสตรีได้ขโมยมาจากหลายที่และเก็บสะสมเอาไว้นานแล้ว เพราะมีความชื่นชอบ

จับหนุ่มโรคจิตงัดเซฟบ.จิวเวลรี่-ขโมยกกน.5พันตัว