posttoday

จี้ผนวกสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ปฏิญญาอาเซียน

16 พฤศจิกายน 2555

เยาวชนอาเซียนเรียกร้องให้ผู้นำจัดทำแนวปฎิบัติในด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมร่วมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

เยาวชนอาเซียนเรียกร้องให้ผู้นำจัดทำแนวปฎิบัติในด้านการปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมร่วมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความพร้อมในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

กลุ่มสมาคมเยาวชนเขมร กลุ่มศูนย์รวมประชาชนเพื่อการพัฒนาและสันติ และกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร่วมทำพิธีทางศาสนาสวดมนต์หน้าอนุสาวรีย์วิมานเอกราชกลางกรุงพนมเปญ เพื่อส่งสาส์นข้อความถึงผู้นำชาติอาเซียน  ก่อนมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 21 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา  ให้หันมาสนใจประเด็นสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมและผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุยษยชน โดยป้ายดังกล่าวมีข้อความว่า “สิทธิด้านสิ่งแวดล้อมคือสิทธิมนุษยชน (Human Rights = Environmental Rights)”

นาย ยง คิม อัง ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนเพื่อการพัฒนากล่าวว่า  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งภูมิภาคของโลกที่มีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การพัฒนาดังกล่าวไม่ควรต้องแลกกับการริดรอนสิทธิมนุษยชน เราเรียกร้องให้ผู้นำประเทศในอาเซียนตระหนักถึงสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเข้าถึงน้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ และการมีสิ่งแวดลอมที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิทธิมนุษยชนเช่นกัน

ด้านนาย ชามเริง มาก ประธานสมาคมเยาวชนเขมรกล่าวว่า  ที่ประชุมควรมีการหารือถึงมาตรการเกี่ยวกับการปกป้องสภาพภูมิอากาศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีผลมาจากความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นของภูมิภาคและในประเทศกัมพูชาเอง ซึ่งหนึ่งในมาตรการนั้นก็คือการยุติการใช้พลังงานสกปรกที่ได้มาจากถ่านหิน ในฐานะเยาวชนพวกเราขอสวดมนต์เรียกร้องให้ผู้นำในภูมิภาคของเราสร้างความมั่นใจว่าอนาคตที่ดีต้องมาจากการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม การประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อพิจารณาแผนการปฏิบัติร่วมกันของสิบประเทศเพื่อนำไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2558 ซึ่งแผนดังกล่าวครอบคลุมถึงการสร้างสะพาน  ถนน  โรงไฟฟ้า  และระบบอินเตอร์เนตเพื่อเชื่อมสิบประเทศเข้าไว้ด้วยกัน การใช้หนังสือเดินทางร่วมกัน เพื่อเพิ่มการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม ความรู้ระหว่างกัน และยังรวมไปถึงการพัฒนาด้านธุระกิจและกิจกรรมต่างๆ ภายในภูมิภาคเพิ่มขึ้น

 
ด้านนาย นาง เซลดา โซริยาโน เจ้าหน้าที่ด้านนโยบายของกรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว  การมาเยือนของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าในการประชุมสุดยอดผู้นำครั้งนี้ ผู้นำอาเซียนต้องใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปในการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือทางการเงินในเรื่องดังกล่าวกับประเทศที่อ่อนไหวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หากเรื่องนี้ไม่มีการประชุมหารือในที่ประชุมอย่างเร่งด่วน ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะสร้างความเสียหายแก่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังจะเป็นอุปสรรคต่อการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน