posttoday

ศาลสั่งคุมประพฤติสาวฉุนโดดถีบนายอำเภอ

13 ตุลาคม 2555

ศาลสั่งจนท.คุมประพฤติ สาวฉุนไม้ได้เงินช่วยท่วม โดดถีบนายอำเภอ รายงานผลภายใน 15 วัน ก่อนตัดสินคดี

ศาลสั่งจนท.คุมประพฤติ สาวฉุนไม้ได้เงินช่วยท่วม โดดถีบนายอำเภอ รายงานผลภายใน 15 วัน ก่อนตัดสินคดี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท.สุพิตร โคนพันธ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว ได้นำตัวนางสาวนรมน จันทร์ไพจิตร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241/11 ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ที่กระโดดถีบและทำร้ายร่างกายนายเฉลิมพล มั่งคั่ง นายอำเภอลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี และถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาสาเหตุเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วม ซึ่งผู้ต้องหาได้ใช้เงินสดประกันตัวไปในวงเงินสองหมื่นบาท
        
 เช้าวันนี้ศาลจังหวัดปทุมธานี ได้ออกนั่งบัลลังก์สั่งการให้เจ้าหน้าที่ควบคุมความประพฤติไปสืบเสาะประวัตินางสาวนรมน จันทร์ไพจิตร ผู้ต้องในคดีนี้ แล้วให้รายงานผลภายใน 15 วัน จึงจะตัดสิ้นในคดีนี้ และให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปก่อนโดยใช้หลักประกันเดิม
         
ด้านนายเฉลิมพล มั่งคั่ง นายอำเภอลาดหลุมแก้ว กล่าวว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ถูกถีบ ได้อธิบายกับนางสาวนรมน ว่าบ้านเลขที่ 241/11 ม.8 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว ที่ให้ผู้อื่นเช่าพักอาศัยอยู่ในช่วงน้ำท่วมพอน้ำลงผู้เช่าบ้านของนางสาวนรมนฯได้ย้ายออกจากบ้านไป และต่อมาก็ได้ยืนเรื่องขอรับเงินรอบแรกจำนวน 5,000 บาทและก็ได้รับไปแล้วซึ่งผู้เช่าบ้านดังกล่าวได้มายืนเรื่องขอเงินเยียวยารอบสองอีกครั้ง ดังนั้นตามกฏระเบียบจริงของ กบอ.ผู้ที่เช่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นผู้เสียหายตามระเบียบ ของ กบอ.เนื่องจากได้รับผลกระทบน้ำท่วมจริงๆในช่วงที่ยังเช่าบ้านอยู่ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
         
นายเฉลิมพล กล่าวว่าซึ่งพอต่อมาเจ้าของบ้านจริงหลังดังกล่าวก็ได้มายืนเรื่องขอรับเงิน พอทางอำเภอได้ตรวจสอบปรากฏว่ามีรายซ้ำซ้อนกันจึงได้มีการสั่งระงับเพื่อตรวจสอบก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งทางเจ้าของบ้านก็ไม่ฟังเหตุผลและโวยวายทันทีโดยไม่ฟังคำอธิบาย ทันใดนั้นเจ้าของบ้านคือนางสาวนรมน ได้เข้ามาทำร้ายร่างกาย ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องเข้ามาจับกุม แต่ว่าทางนางสาวนรมนฯยังไม่หยุดด่ายังด่าตนเองด้วยถ้อยคำที่หยาบคายตลอด จึงต้องควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง แต่ถ้าหากนางสาวนรมนเกิดความสำนึกผิดจริงโดยเข้ามาขอโทษ ตนเองก็ไม่ใช้คนใจร้ายก็จะพิจารณาอีกครั้ง