posttoday

จี้สรยุทธแสดงความรับผิดชอบ

04 ตุลาคม 2555

วงเสวนาทุจริตจี้ ‘สรยุทธ’ แสดงสปิริต กระทุ้ง ช่อง 3 สั่งพักงานจนคดีสิ้นสุด วอน บริษัทเอกชนถอนโฆษณา

วงเสวนาทุจริตจี้  ‘สรยุทธ’ แสดงสปิริต กระทุ้ง ช่อง 3 สั่งพักงานจนคดีสิ้นสุด วอน บริษัทเอกชนถอนโฆษณา

ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ร่วมกับสถาบันอิศรา จัดเสวนากรณีเรื่อง “กรณีไร่ส้ม…บทพิสูจน์ความเข้มแข็งของสังคมในการต่อสู้คอร์รัปชั่น” โดยมีข้อเรียกร้องสำคัญ 3 ประการ คือ1.ให้นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าว แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมภายหลังจากคณะกรรกมาป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด 2.ให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในฐานะต้นสังกัดดำเนินการสั่งพักงานจนกว่าคดีการทุจริตการโฆษณาเกินเวลาจะถึงที่สุด และ 3.ให้บริษัทภาคเอกชนถอนโฆษณาและการสนับสนุนรายการของนายสรยุทธ์
               
นายจักรกฤษ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ประกอบการวิชาชีพต้องไม่ประพฤติเสื่อมเสียมในเกียรติวิชาชีพ ซึ่งกรณีนี้เพียงพอที่จะมีมลทินให้เกิดความมัวหมองแล้ว ดังนั้น ควรพิจารณาว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร ที่สำคัญนายสรยุทธเป็นบุคคลสาธารณะและได้รับความไว้วางใจจากสังคมระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในส่วนของสภาฯไม่มีอำนาจดำเนินการทางกฎหมาย ขึ้นอยู่กับมาตรการทางสังคมว่าจะมีมาตรการออกมา
“เรื่องนี้เป็นเรื่องจิตสำนึกและความละอายใจ คนทำสื่อหัวใจต้องสะอาดเพราะถ้าไม่สะอาดแล้วก็ไม่ควรทำอีกต่อไป” นายจักรกฤษ กล่าว
นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน กล่าวว่า การทำหน้าที่ของสื่อมวลชนเท่ากับการเป็นครูให้กับสังคมไปโดยปริยาย เมื่อสื่อมวลชนเป็นคนที่มีชื่อเสียงแล้วยิ่งทำให้สังคมให้ความเชื่อถือมากขึ้น ดังนั้น คนทำหน้าที่สื่อสารมวลชนต้องมีหัวใจยกระดับ ไม่ควรกระทำในสิ่งที่ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคม โดยในเมื่อสื่อมวลชนที่เคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าทุจริตแต่กลับมาทำทุจริตเสียเองก็ควรแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีความเป็นมืออาชีพด้วยการยุติการทำหน้าที่ของตัวเองจนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ความบริสุทธิ์
               
นายเสรี กล่าวว่า เช่นเดียวกับต้นสังกัด คือ ช่อง 3 ควรนำกรณีของบริษัทอาร์เอสสั่งพักงานศิลปินที่มีความเสียมาพิจารณาดำเนินการเช่นกันเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานที่ดีต่อสังคมอย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่ได้ให้การสนับสนุนในสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่อย่างใด นอกจากนี้ อยากให้บริษัทเอกชนที่อยู่ภายใต้ภาคีฯร่วมกันพิจารณาถอนการสนับสนุนรายการของนายสรยุทธด้วยเช่นกัน เพราะภาคีฯคงไม่สามารถเพิกเฉยต่อกรณีได้

จี้สรยุทธแสดงความรับผิดชอบ

“ถ้าคิดจะแก้ทุจริตเพียงแต่การพูดโดยไม่ทำอะไรเลยก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร หมาเห่าอย่างเดียวไม่กัดต่อไปก็ไม่มีใครกลัว” นายเสรีกล่าว 
               
นายสมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน กล่าวว่า การทุจริตในวงการวิทยุโทรทัศน์มีมาอย่างยาวนานไม่ได้เพิ่งมาเกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งความไม่โปร่งใสในวงการไม่ได้มีเฉพาะเรื่องค่าโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่การรับผลประโยชน์ตอบแทนเพื่อดำเนินการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารก็นับว่าเป็นการทุจริตชนิดหนึ่งเช่นกัน สำหรับกรณีของบริษัทไร่ส้ม ต้องอย่าลืมว่านายสรยุทธ์มีสองสถานะในสังคม คือ สถานะนักธรุกิจ และ สถานะสื่อมวลชน เท่ากับว่าต้องรับผิดชอบต่อสังคมทั้งสองด้าน ถ้าหากไม่ดำเนินการอะไรเลย สังคมก็ควรมีมาตรการกดดันออกมา
 
“ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณสรยุทธสามารถใช้เวลาของช่อง 3 ซึ่งออกอากาศทางคลื่นความถี่ที่เป็นของสาธารณะชี้แจงเรื่องของตัวเองโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้มีโอกาสชี้แจง ดังนั้น ช่อง 3 ในฐานะต้นสังกัดก็ควรปฏิกิริยาต่อกรณีนี้ด้วย” สมเกียรติ กล่าว
               
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า การจะให้บริษัทเอกชนในเครือข่ายของภาคีฯดำเนินการถอนโฆษณาหรือเลิกให้การสนับสนุนนายสรยุทธ คงต้องรอให้สภาวิชาชีพสื่อมวลชนมีความเห็นออกมาอย่างเป็นทางการโดยระบุให้ชัดว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นไม่มีความเหมาะสมและไม่ควรคบหาด้วย ถ้ามีการดำเนินการแบบนี้แล้วจะช่วยให้ภาคีฯสามารถนำไปอ้างอิงกับบริษัทเอกชนให้พิจารณาได้อย่างมีน้ำหนักมากขึ้นต่อไป