posttoday

ปภ.เผย 9 จังหวัดยังน้ำท่วม

03 ตุลาคม 2555

ปภ. เตือน 30 จังหวัดเตรียมรับมือฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่มช่วงวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ จากอิทธิพลพายุ แกมี เผย 9 จังหวัดยังมีน้ำท่วมประชาชนเดือดร้อน 220,000 คน

ปภ. เตือน 30 จังหวัดเตรียมรับมือฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่มช่วงวันที่ 6-7 ต.ค.นี้ จากอิทธิพลพายุ แกมี  เผย  9 จังหวัดยังมีน้ำท่วมประชาชนเดือดร้อน 220,000 คน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)กล่าวถึงพายุโซนร้อนแกมี ซึ่งจะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทยในช่วงวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้ ว่า จะส่งผลกระทบทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ดังนั้น ขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ลาดเชิงเขา ที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทางน้ำไหลผ่าน เตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดย 30 จังหวัดที่อยู่ในจุดเสี่ยง ประกอบด้วย จังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี ระยอง ตราด ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ระนอง และจังหวัดสตูล

อธิบดี ปภ. กล่าวว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบอุทกภัย9 จังหวัด รวม 38 อำเภอ 292 ตำบล 1,738 หมู่บ้าน แยกเป็น พื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทราพื้นที่ลุ่มน้ำยม ได้แก่ จ.พิษณุโลก พิจิตร พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จ.อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการพื้นที่ลุ่มน้ำท่าจีน ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี นครปฐม ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 90,031 ครัวเรือน 224,126 คน

นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ว่า ปภ. ได้ประสานให้จังหวัดที่ประสบภัย จัดตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้า เพื่อเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการให้ความช่วยเหลือกับหน่วยงานส่วนกลาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ภัย และรับแจ้งเหตุสถานการณ์อุทกภัย ผ่านสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ช.ม. รวมถึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว และชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติ พร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกลสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนจังหวัดที่สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายแล้ว ได้สั่งการให้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง อย่างทั่วถึงโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์และระดับน้ำได้ทาง www.waterforthai.com และสามารถติดต่อแจ้งเหตุสถานการณ์อุทกภัยขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป