จับพยาบาลรับจ้างฉีดสารโบท็อกซ์

ตำรวจจับพยาบาลลอบรับจ้างฉีดสารโบท็อกซ์ให้ลูกค้าคลินิก หลังเจอคนร้องเรียน

เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.กก.ดส. พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.ดส. ควบคุมตัว น.ส.รัตติพัชร ธนินวิวัฒน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาที่ลักลอบแอบฉีดสารเพิ่มความสวยงามโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแถลงข่าว หลังจากจับกุมตัวได้ที่ รัตติพัชร คลินิกเวชกรรม ตั้งอยู่เลขที่ 108/8 อาคารD ชั้น1 ซอยไพศาล ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ 7 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.  

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.)ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ทำการขยายผลการจับกุมคลินิกที่มีการแอบลักลอบฉีดสารเพิ่มความสวยงามโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ต้องหาก็เป็นแค่พยาบาล ไม่ใช่เป็นหมอแต่อย่างใด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ปกติทางคลินิกจะมีแพทย์มาควบคุมดูแลและจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00 น. ทุกวัน โดยตนเองมีหน้าที่ฉีดสารเพื่อความสวยงามต่างๆให้กับลูกค้า โดยแอบลักจำมาจากแพทย์และศึกษาวิธีการฉีดด้วยตนเองบ้างมาประมาณ 5 ปีแล้ว ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำการรักษาคนอื่นๆนั้น ตนได้ทดลองฉีดสารต่างๆกับตัวเองเสียก่อนเพื่อความปลอดภัยของลูกค้า แต่ตนก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติอย่างใด อีกทั้ง ตนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ของการพยาบาล ใบอนุญาตเลขที่ 4511166978 ออกเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2555 และได้เปิดคลินิคเวชกรรมเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ได้รักษามาเป็นจำนวนหลักร้อยแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนวัยทำงาน

นายพสิษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีการร้องเรียนมาว่ามีผู้ฉีดสารโบท็อกซ์ให้ลูกค้า โดยให้บริการฉีดสารให้กับลูกค้าก่อนเวลาเปิดจริงและไม่มีแพทย์มาคอยดูแล รวมทั้ง ผู้ต้องหาก็ไม่ใช่แพทย์โดยตรง เป็นแค่พยาบาลเท่านั้น และขณะที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการเข้าจับกุมก็ไม่มีแพทย์อยู่ด้วย แต่ทางผู้ต้องหาบอกว่าลูกค้าต้องการฉีดกับตนเอง เพราะมีพื้นฐานอยู่บ้าง ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าได้ทำการล่อซื้อจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท นอกจากนี้ ผู้ต้องหาเป็นแค่พยาบาลในการรักษาการผดุงครรภ์ ไม่ใช่แพทย์ที่รักษาด้านความสวยงาม

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขและกก.ดส. ได้รับคำสั่งจากทางบช.น. ให้ระดมกวาดล้างคลินิกเถื่อนและหมอกระเป๋าที่รับฉีดสารเพิ่มความสวยงามต่างๆให้แก่ลูกค้าอย่างจริงจัง ซึ่งทราบว่ามีจำนวนกว่า 100 แห่ง  และจะเข้มงวดในการปฏิบัติงานในเชิงรุก 

พ.ต.อ.วิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนแพทย์ที่มีใบอนุญาตและเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวนั้น ทางพนักงานสอบสวนในท้องที่จะเรียกมาสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะถูกดำเนินคดีด้วย ทั้งนี้ การจับกุมในครั้งนี้ได้รับแจ้งมาจากทั้ง สายลับ อินเทอร์เนต และลูกค้าที่มาใช้บริการแล้วไม่ได้ผลที่น่าพอใจซึ่งต้องการร้องเรียน จึงได้แจ้งมาที่กก.ดส.รวมทั้ง ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อมูลต่างๆอยู่แล้วด้วย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525” ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป