หนุ่มหื่นไล่ปล้ำแหม่มฟูลมูนปาร์ตี้
สาวอิสราเอลเจอหนุ่มหื่นไล่ปล้ำหลังเที่ยวฟูลมูลปาร์ตี้เจ้าตัวสู้สุดตัวกัดปากเลือดสาด
สาวอิสราเอลเจอหนุ่มหื่นไล่ปล้ำหลังเที่ยวฟูลมูลปาร์ตี้เจ้าตัวสู้สุดตัวกัดปากเลือดสาด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ต.ค. ร.ต.ต.จตุรงค์ นามคำ รอง.สว.ส.ทท.7 กก.5 บก.ทท.สถานีตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์สมุย ว่า ได้รับตัวหญิงสาวนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บจาก อ.เกาะพะงัน ส่งตัวมารักษาจึงเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ ดต.พิระเดช คงยศ และ ดต.สุพจน์ พงษ์ไทย ผบ.หมู่งาน ผบ.หมู่งาน ป.ส.ทท.7 กก.5 บก.ทท. ทราบผู้เสียหายชื่อ น.ส.ฮาวอร์รี่ อายุ 23 ปี สัญชาติอิสราเอล อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น สวมเสื้อยืดสีฟ้าชมพูที่เสื้อมีคราบเลือดติดจำนวนมากนอนอยู่ในรถยนต์ของหน่วยกู้ชีพกู้ภัยสมาคมเกาะสมุย
ทั้งนี้ เบื้องต้นแพทย์โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์สมุย ได้ให้ผู้เสียหายเปลี่ยนเสื้อผ้าและนำตัวไปตรวจร่างกาย พบว่า ที่ใบหน้ามีร่องรอยถูกทำร้ายจนบวมปูด และที่ใต้ริมฝีปากด้านล่างมีฉีกขาดเย็บประมาณ 3 เข็ม
จากการสอบถาม น.ส.ฮาวอร์รี่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้เข้าพักที่ห้อง 302 โรงแรมกรีนเบย์รีสอร์ท หาดริ้น หมู่ 6 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน และได้เดินไปเที่ยวดื่มกินในงานฟูลมูนปาร์ตี้กับเพื่อนๆอีก2-3 คน กระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น.วันเดียวกันได้แยกกับเพื่อนเดินไปยังบริเวณชายหาดข้างสระน้ำของบาร์ทอมมี่ โรงแรมทอมมี่รีสอร์ท
ขณะนั้นมีชายฉกรรจ์คล้ายคนไทยนุ่งกางเกงยีนส์ สวมเสื้อยืดสีดำ อายุ 30-35 ปี เดินตรงเข้ามาหาเข้าใช้กำลังกระชากลากตนเข้าไปที่ข้างสระน้ำและใช้กำลังถอดกางเกงตนออกพยายามจะข่มขืนใช้อวัยะเพศสอดเข้าไป แต่ตนได้ดิ้นใช้กำลังต่อสู้ แต่คนร้ายกลับใช้ลิ้นจูบเข้าไปในปาก ตนจึงตัดสินใจได้กัดปากคนร้าย ส่วนคนร้ายได้กัดริมฝีปากตนจนเลือดไหลและได้ชกที่ท้องตนพร้อมกับได้วิ่งหลบหนีจนมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านมาพบเข้าช่วยเหลือ
น.ส.ฮาวอร์รี่ กล่าวอีกว่า ต่อมาได้เข้าตรวจร่างกายที่คลินิกแห่งหนึ่งบนเกาะพะงันและถูกนำตัวขึ้นเรือสปีดโบ้ท ข้ามมารักษาที่โรงพยาบาลบ้านดอนอินเตอร์สมุย พร้อมแจ้งให้ตำรวจท่องเที่ยวทราบเพื่อประสานให้ตำรวจ สภ.เกาะพะงันทราบเรื่องและออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้าย
ด้าน น.ส.ยาเดน อมอร์ อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติเดียวกัน ทราบเรื่องได้เดินทางเข้ามาคอยปลอบใจผู้เสียหายและประสานให้ความช่วยเหลือ กล่าวสั้นๆว่า จะไม่มาเที่ยวที่เกาะพะงันอีกแล้ว