"อดุลย์"แนะบิ๊กตร.เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี

"อดุลย์ แสงสิงแก้ว" แนะบิ๊กตำรวจต้องเป็นผู้บังคับการ-ผู้บัญชาการที่ดี สร้างทีมเวิร์ค-เอาใจใส่ลูกน้อง

พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพ ผบช. และ ผบก.ที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ประจำปี 2555” เมื่อวันที่24 ก.ย.2555 ณ อาคารอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตอนหนึ่งว่า ขอสรุปนโยบาย 18 ข้อการเป็นผู้บังคับการที่ดี เป็นผู้บัญชาการที่ดี

ประการแรก ผู้บัญชาการทุกหน่วยต้องมีภาวะผู้นำ การไม่สนใจบุคลิก ไม่น่าเชื่อถือ พูดจาหน่อมแน้ม ตัดสินใจไม่ได้ เหล่านี้จะมีไม่ได้ เพราะนี่คืออันดับแรก

“ผมให้ความสำคัญภาวะผู้นำ ตั้งแต่บุคลิกภาคท่วงทีวาจาประสบการณ์การครองตน การครองคน การตัดสินใจที่ดี รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ เสียสละ บุคลิกที่สำคัญของผู้บังคับบัญชาแสดงออกมาก่อนแน่นอน ถ้าไม่มาทำไม่ได้ต้องเปลี่ยนตัวแน่นอน ไม่กล้าตัดสินใจไม่ทำอะไรเลย ที่เห็นๆ ไม่ดูลูกน้อง เป็นไปไม่ได้ มันมาเป็นข้อแรก ของการเป็นผู้บัญชาการเป็นผู้การ โจทย์ข้อแรกนักปกครอง ผู้นำ นะครับ

ข้อสอง เมื่อทำงานต้องมีเป้าหมาย นโยบาย แอคชั่น แพลน แผนปฏิบัติจะทำให้สำเร็จในพื้นที่รับผิดชอบ อาชญากรรมต้องลด ประชาชนได้รับความยุติธรรม ลูกน้องต้องขวัญดีและก็ไพร่ฟ้าหน้าใส อันนี้แน่นอน ลูกน้องเดือดร้อนก็ต้องเดือดร้อน ก็ๆ ฝากไว้นี่คือข้อที่สอง 

ข้อสามเป็นนักบริหารงานต้องไปสร้างทีมได้ ลูกน้องผมไปไหน ผมไม่เคยติดตามไป ไปนิดๆ หน่อยๆ แต่ใช้คนในพื้นที่ให้ความร่วมมือทุกคนนะครับ ผมไปภาคใต้มีแต่คนถาม ไปภาค 3 หรือแล้วแต่นั่นคือผู้นำต้องมีเทคนิคของการสร้างทีมเวิร์ค สร้างทีมในการทำงานร่วมกัน อย่าไปทำงานแบบแยกส่วน ทำงานแบบทีมเขาทีมเราเป็นทีมเดียว และก็ต้องมีวิชา วิธีการในการปลูกรัก เป็นนักบริหารงานต้องไปสร้างทีมได้

นั่นคือผู้นำต้องมีเทคนิคของการสร้างทีมเวิร์ค สร้างทีมในการทำงานด้วยกัน รู้จักใช้คน  อย่าทำงานแบบแยกส่วน ทำงานแบบทีมเขา ทีมเรา ให้ทำงานแบบทีมเดียว และก็ต้องมีวิชาวิธีการในการปลุกเล้า สร้างพลังลูกน้อง การประชุม การไปเยี่ยม การปลุกระดม ที่ให้เกิดเขาจะทำงานให้เรา ผู้ใต้บังคับบัญชาคือเม็ดงาน พฤติกรรมของเรามีผลต่อความศรัทธาของผู้ใต้บังคับบัญชาแน่นอน ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ท่านเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยเลย ท่านมางานสายเขาก็มอง เขาไม่ว่าครับ เขาป้องปาก กลับไปตีกอล์ฟ เขาก็ไม่ว่าครับ แต่เขาป้องปาก พฤติกรรมของท่านมีผลต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในการขับเคลื่อนการทำงาน ท่านต้องระวัง ทำเป็นฟู่ฟ่า กินที่ดีดี นอนดีดี ใช้ของหรู แต่ลูกน้องเดือดร้อน ไม่ดีหรอก มีผลมาก

อันนี้ก็ฝากไว้ มันมีผลส่อ พฤติกรรมของท่านมีผลต่อผู้ใต้บังคับบัญชา และประชาชนแน่นอน เพราะเราคือผู้นำ

สิ่งเราต้องการเห็นคือ เมื่อทำดี นายชมเป็นหน่อย เออ สุดยอด เยี่ยมน้อง นายให้กำลังใจ รู้จักชมครับ ไม่ใช่ทำดีก็เฉย ไม่เคยทัก ไม่เคย จำชื่อไม่ได้อีกต่างหาก ทำเป็นไม่รู้จักกัน ไม่ได้ ลูกน้องต้องรู้จักชม เออสุดยอดน้อง แต่พอไม่ดีระวังไว้ รู้จักชมหน่อย เพราะเราเป็นผู้บังคับบัญชา รู้จักชม ได้ผลงานน้ำใจ

และที่ผมเน้นคือ ผู้การ ผู้บัญชาการ คือ ลูกน้องมาก่อน ให้อิสระ ถ้าผู้การ ผู้บัญชาการก่อน งานไม่ออกแน่นอน ไม่รู้ครับผมคิดว่า ยิ่งทำยิ่งเก่ง ยิ่งให้ยิ่งได้ บางคนคิดอย่างนี้ ไม่น่าเชื่อ ยิ่งทำยิ่งเก่ง ยิ่งให้ยิ่งได้ มันจะมาเอง แต่ขอให้ทำ เพื่อผู้ใต้บังคับบัญชาเราทำงานได้ องค์กรให้คิด 2 อย่าง และก็เป็นผู้การ เป็นผู้บัญชาการต้องรู้ระเบียบ มีข้อมูล รู้อำนาจ รู้หน้าที่ รู้วิธี รู้ระเบียบอำนาจว่าไงบ้าง ระเบียบข้อเท็จจริงไงบ้าง เป็นผู้บังคับบัญชาต้องรู้พื้นที่ปฏิบัติการพอสมควร รับผิดชอบทั้งหมดในจังหวัด ในจังหวัดต่าง ๆ รู้อย่างลึกเลย ถามร้านทอง ธนาคาร มี รู้หมด มวลชนเป้าหมายอย่างไรบ้าง รวมทั้งรู้ลูกน้องด้วย

ข้อ10 เป็นผู้การ ผู้บัญชาการต้องพูดเป็นครับ และต้องประชุมเป็นด้วย พูดไม่เป็น เอ้อ ๆ อ้า ๆ ประชุมก็โหยาวมาก ประชุมที 5 ชม. มันจะกระชับยังไง ฟังเสียงยังไง ตัดสินใจยังไง อันนี้สำคัญมาก การประชุมสำคัญมาก ที่จะให้ 1 ถ้าไปพูดต่อหน้าแถวก็ต้องดี ให้เขาภาคภูมิใจ แต่ประชุมบนโต๊ะ รูปของการฟังข้อเท็จจริง ประชุมช้า ประชุมนานมาก ผมประชุมไม่เกิน 2 ชม. ก็ฝากไว้เป็นเรื่องของประสบการณ์ บรรยากาศในการประชุม ฟังคนเยอะ ๆ หน่อย มีส่วนร่วม ถ้าไปก็ด่าลูกเดียว ด่าลูกเดียวไม่มีประโยชน์ เจอหน้าก็ด่าลูกเดียวคิดไม่ออก 

ประการต่อไป การตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่ และการรายงานข้อมูลของพวกเราสำคัญมาก เป็นผู้การรายงานผู้บัญชาการ มีเหตุใหญ่รายงาน ผบ.ตร. อันนี้สำคัญ เป็นการทำงานที่เป็นเหมือนเพื่อนร่วมงาน เมื่อกี้ผมจะเข้า ก.ตร. ช้า ผมก็ต้องรายงานท่านเพรียวพันธ์ กับท่านรองนายก เป็นการให้เกียรติ เป็นการปฏิบัติตามหน้าที่วินัย ขออนุญาตเข้าช้า นี่คือเรื่องพยายามลำดับความสำคัญ แต่ถ้าเฉย มาก็เฉย มันก็มีโอกาสพลาด ถ้าเขาสวนเราก็ได้ เป็นการให้เกียรติการรายงาน เขาสั่งเราต้องรายงาน ข้อ 12 รู้หลักประสานงานเก่งๆ พลังอำนาจประสานงาน ต่อไปข้อ 14

ผมว่านะ เป็นผู้การ ผู้บัญชาการ งานเยอะครับ ปกติการแก้ปัญหา งานสังคม ต้องรู้จักการจัดกาลเวลา อะไรก่อนหลัง เขาเรียกว่าต้องรู้ว่า การบริหารการเวลา เราเกิดขึ้นมาเท่ากันหมด 24 ชม. เดือนหนึ่ง 30 วันๆ แต่ว่าทำงานได้เยอะ ทำงานได้ทุกเรื่อง ก็ต้องรู้จักการจัดกาลเวลา อะไรที่สำคัญ อะไรที่สำคัญน้อย อะไรที่สำคัญมาก ก็ต้องมีวินิจฉัย วางระบบการทำงาน วิชานี้สำคัญมาก การบริหารกาลเวลา เพราะว่าเรามี ขั้นในงานมีอยู่ 3 งานเองครับ 1 งานปกติ 2 งานแก้ปัญหา 3 เรื่องส่วนตัว

ถ้าเราไม่มีระบบงานแบบนี้ เราก็มีระบบกับการแก้ปัญหา เพราะฉะนั้นถ้าทำได้ ต้องมีการพัฒนาและเดินไปด้วยเวลา ก็ฝากไว้ว่าให้สนใจเรื่องการจัดการเวลาให้ถูกต้อง ออกกำลังกายได้ ทำงานได้ สังคมได้ ส่วนตัวได้ ให้ครบ ก็ฝากไว้เรื่องของเวลา  ข้อ 15 คิดว่าสำคัญกับผู้บริหาร ผู้การ ผู้บัญชาการ เวลามันเยอะ มันก็เริ่มสุขภาพจะทรุด สุขภาพมี    2 ตัวครับ ใจและกาย ถ้ากายต้องมีหลัก 5 อ ออกกำลังกายประจำ อาหารถูกต้อง สุขภาพเรื่องอากาศที่ดี การระบายเรื่องของอารมณ์

ผมฝากว่า อารมณ์มันมีผลมาก แต่ผมคิดว่า ถ้าท่านมีเป้าหมาย ทำงานให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดก็เกิด ท่านทำเต็มที่ อย่าไปคิดมาก อุทิศตนเพื่องาน อะไรจะเกิดก็เกิด วันนี้ ผบ.ตร. ผมเดินไป 2 ปี ไม่ถึงก็ช่าง ทำเต็มที่ทุกเวลา นี่ก็มาเกินกว่าที่คิดแล้ว ผมไม่คิดจะเป็นไรมากกว่านี้ เกินกว่า วันนี้มาก็ทำเพื่อประเทศชาติประชาชน องค์กรของเราเต็มความสามารถ อันนี้เป็นอุดมการณ์ของผม เพราะฉะนั้นการชกของผมเป็น  1 - 2 ตลอด และบอกเก๋ง หมดเวลา ครับ หวัดดีครับกลับบ้าน ก็นั้นคือการใส่จิตใจลงไป และทำงาน

ทุกนาทีถ้าเรามีตรงนี้สุขภาพจิตก็ดี ไม่วอกแวก ไม่กังวลไรมาก ทำงานครับ ข้อ 16 สำคัญ ในปัจจุบัน ในอนาคตครับ ภาษา ไอที ต้องทบทวนหน่อย เป็นผู้บัญชาการ ผู้การ เจอฝรั่ง นิ่ง ๆ ก่อนนะ ไปทักคือ มันต้องดูดีหน่อยนะ ต้องฝึกหัด ฝึกฝนการพูด การสัมผัส ถ้าเจอฝรั่งหนีเลย เสียบุคลิกผู้การ เดินหนีอย่างเดียวไม่ได้นะ

อย่างผมนิ่งๆ ผมไปก่อน คุยรู้ แต่ว่าอนาคตต้องประชุมได้ สำคัญมากครับภาษา ต้องฝึกฝนไว้ ข้อ 17 ผมว่าสำคัญนะ ที่ผมทำงานได้ คือ ผมทำการบ้านทุกเรื่อง ทำเตรียม ขั้นเตรียมการ คนที่ไม่ทำการบ้านไม่สำเร็จ คืออาจจะเคยเก่ง แต่ไม่เก่ง เพราะไม่เคยสนใจ ไม่คม เพราะไม่ทำการบ้าน เช่น วันนี้รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนี้ ศึกษาเลยว่า พื้นที่ปฏิบัติการกี่ตารางเมตร มีอะไรเกิดขึ้น มีอาชญากรรมเกิดขึ้น ลูกน้องมีใครบ้าง นโยบาย คือมันมีทำการบ้าน ไปถึงทักชื่อลูกน้องได้ถูก ผู้การมาใหม่จำชื่อได้ เริ่มแล้ว คือมันต้องทำการบ้าน เตรียมตัว ประชุมต้องทำการบ้าน บรรยายต้องทำการบ้าน

ถ้าผมไม่ทำการบ้านผมบรรยายไม่ถูก ต้องทำการบ้าน ร่วมกันทำหน้าที่ อย่าคิดว่ารู้แล้ว รู้แล้วหยิบสด คนหยิบสด ล้มเหลวทุกคน เพราะหยิบสดไม่เคยศึกษามา นั่งประชุมก็เอ้อๆ  อ้าๆ ไม่ทำการบ้าน คนทำการบ้านชนะกว่าครึ่งนะครับ เตรียมตัว วันนี้ท่านเป็นผู้การ ผู้บัญชาการ ผมคิดว่าท่านเตรียมตัวแล้ว

ท่านเดินไปขึ้นกองบัญชาการ ไปแบบมีข้อมูล รู้คน รู้สถานที่ รู้นโยบาย รู้ข้อสั่งการ ก็ไปครึ่งแล้ว เพิ่มเติมข้อสั่งการ สมาร์ท     ก็ฝากไว้ทำการบ้านทุกเรื่อง วันนี้ผมมาบรรยายให้เพื่อน ๆ พี่ๆ น้องๆ ฟัง ไม่ทำการบ้าน แต่มาก็อาจพูดไม่รู้เรื่อง   ก็ฝากว่า ทำการบ้านทุกเรื่องประสบความสำเร็จครับ

สุดท้ายข้อ 18 ผมในการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เป็นผู้บังคับหมวดเล็กๆ นะครับในสนาม จนถึงผู้บัญชาการภาคในสนามเหมือนกัน ผมใช้หลัก 4 เกาะติดครับ คือ 1.เกาะติดพื้นที่ครับ อยู่กับหน่วย 2.เกาะติดศัตรู 3.เกาะติดมวลชน สุดท้ายคือบนหัวติดล่าง บนหัวติดล่างคือ นายต้องเกาะติดลูกน้อง อยู่พื้นที่ อยู่กับประชาชน อยู่กับมวลชน อยู่กับข้าศึก อยู่กับอาชญากรรมที่จะเกิด และก็ทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา อันนี้เป็นหลักที่ใช้ทำงานได้ เป็นผู้บังคับหมวดที่อยู่กับหน่วย

ถ้านายมัวแต่คิดอยู่ กทม. ไม่อยู่ในจังหวัดที่อยู่ หรืออยู่ยะลามาหาดใหญ่เรื่อย ๆ ผมเป็นผู้บัญชาการภาค 9 บ้านผมอยู่สงขลา ถามลูกน้อยเลย ผมอยู่ยะลา ประมาณ 95% ของงานที่ผมอยู่ในพื้นที่ อยู่กับลูกน้องครับ ตื่นก็ไป มีแรงก็ไป เมื่อเราทำเต็มที่อะไรเกิดก็เกิดครับ เมื่อทำเต็มที่อะไรเกิดก็เกิดครับ ไม่ต้องไปสนใจ วันนี้ทำเต็มที่แล้ว

วันนี้มีโอกาสเป็นผู้บังคับหน่วย เป็นผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ผมว่าทำเต็มที่ครับ อย่างน้อยก็คนเขาพูดถึง เออได้ทำหน้าที่ แต่อย่างบางคนวันนี้แกมา เดี๋ยวไปแล้ว ก็คงแค่นี้ที่จะมาคุยให้ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ น้องฟัง ซึ่งผมคิดว่าหลายๆ คนทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าผมมากรุ๊ปปิ้ง เอาประสบการณ์ผมมาใส่