posttoday

ร้องคลินิกศัลยกรรมทำภรรยาทรุด

24 กันยายน 2555

เจ้าของร้านขายแบ็ตเตอรี่ในลำปางเตรียมแจ้งความคลินิกศัลยกรรมหลังทำภรรยาทรุดแผลผ่าตัดอักเสบไม่หาย

เจ้าของร้านขายแบ็ตเตอรี่ในลำปางเตรียมแจ้งความคลินิกศัลยกรรมหลังทำภรรยาทรุดแผลผ่าตัดอักเสบไม่หาย

ร้องคลินิกศัลยกรรมทำภรรยาทรุด

นายสมชัย เกตุแก้ว อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่  260  ถนนวชิราวุธดำเนิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ต.แบ็ตเตอรี่ จำหน่ายแบ็ตเตอรี่ชื่อดังใน จ.ลำปาง ได้พาสื่อ ไปดูอาการของภรรยา คือ น.ส.ญาณิสา เกตุแก้ว  อายุ 34 ปี ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ ชั้น 5 โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ลำปาง  หลังผ่าตัดทำศัลยกรรมที่คลินิคแห่งหนึ่ง ใน จ.แพร่ เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นร่างกายก็ทรุดหนักลง โดยมีร่างกายอ่อนเพลีย บริเวณบาดแผลผ่าตัด มีเลือดไหล และเกิดอาการอักเสบ จนต้องเข้ารักษาตัว ที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

น.ส.ญาณิสา ซึ่งนอนโทรมอยู่บนเตียงผู้ป่วย กล่าวว่า ได้ไปใช้บริการทำศัลยกรรมที่คลินิคชื่อดังแหล่งหนึ่งในพื้นที่ จ.แพร่ เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากพี่ชาย ซึ่งเป็นสาวประเภทสองว่าทำที่คลินิกแห่งนี้แล้วดี จึงได้เดินทางไปทำศัลยกรรม เช่น กรีดตา เสริมจมูก  ตัดปาก เสริมหน้าอก ดึงหน้า และดูดไขมัน ซึ่งค่าดำเนินการทั้งหมดกว่า 100,000 บาท ซึ่งในการทำศัลยกรรมทั้งหมดนั้น ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะการผ่าตัดดูดไขมันนั้นจะใช้ระยะเวลานานมาก ซึ่งจะต้องดูดไขมันออก 6 กิโลกรัม หลังทำการผ่าตัดเสร็จทางแพทย์ ก็ได้ให้น้ำเกลือ ส่วนบาดแผลก็ใช้ผ้าพันปิด ตั้งแต่เอวขึ้นมาถึงศีรษะ

“ขณะนั้นร่างกายอ่อนเพลียอย่างมาก แต่แพทย์บอกว่าไม่เป็นไร กระทั่งอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการกลับแย่ลงอย่างมาก และเจ็บบริเวณบาดแผลที่ผ่าตัด โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ที่ผ่าตัดดูดไขมันออก จึงรีบไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร – ราม ทันที  หลังจากเข้ารับการรักษาตัว ทางโรงพยาบาลก็ได้ประสานหมอเจ้าของไข้ที่ทำศัลยกรรม รับทราบ ก่อนที่จะเดินทางมาดู เนื่องจากหน้าท้องของเธอยังมีเลือดไหลออก แต่หมอคนไข้ก็ได้ทำการตัดไหมบริเวณหน้าอกออกเท่านั้น และจะเดินทางมาตัดไหมบริเวณหน้าท้องออกอีกครั้ง ซึ่งห็นว่าไม่ได้ดูแลรักษาเท่าที่ควร หลังทำการผ่าตัดมา”น.ส.ญาณิสา กล่าว

ทั้งนี้นายสมชัย จะเดินทางไปยัง สภ.เมืองแร่ เพื่อเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคลินิกชื่อดังให้รับผิดชอบถึงอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น ซึ่งทางครอบครัวเห็นว่า ทางคลินิกเป็นผู้ลงมือผ่าตัดทำศัลยกรรม ไม่ได้รับผิดชอบ และไม่ได้ดูแลผู้ป่วยดีเท่าที่ควร เดินทางมายัง จ.ลำปาง เพื่อดูอาการ นอกจากทำการตัดเอาไหมที่บริเวณบาดแผลออก ก็ไม่ได้ให้คำแนะนำ หรือให้รายละเอียดใด ดังนั้น จึงเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับมาตรฐานทางการแพทย์ และการรักษาของแพทย์รายนี้ จึงตัดสินใจจะเข้าแจ้งความในวันที่ 26 กันยายน 2555 นี้ เพื่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป