เสนอสร้างเส้นทางผันน้ำจากชัยนาทลงอ่าวไทย

ผุดแนวคิดขยายคลองชัยนาท-ป่าสักเชื่อมคลอง13นำน้ำลงทะเลเร็วขึ้น ลดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยุธยา-อ่างทอง

เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่การประปานครหลวง สมาคมทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย ได้จัดเวทีจัดทำแบบจำลองแก้ปัญหาอุทกภัยในอนาคต พร้อมกับนำเสนอ กรอบแนวคิดแนวผันน้ำ และการวิเคราะห์โครงการป้องกันน้ำท่วม

นายอภิชาต อนุกูลอำไพ นายกสมาคมทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า มีแนวคิดที่จะจัดทำเส้นทางผันน้ำในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยใช้นำน้ำผ่านคลองชัยนาท-ป่าสัก จากประตูระบายน้ำมโนรมย์  อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท ไปทางตะวันออกผ่านจ.สระบุรี จ.ลพบุรี และผ่านคลอง 13 เพื่อลงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ลงสู่อ่าวไทย มีความยาวทั้งสิ้น 258 กิโลเมตร ความกว้างคลองเฉลี่ย 160 เมตร พร้อมกับปรับรูปแบบคลองชัยนาท-ป่าสักให้มีความกว้าง และลึกมากขึ้น เพื่อรองรับน้ำเหนือที่มีปริมาณมหาศาล และแบ่งเบาจำนวนน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยารับอยู่ขณะนี้

ทั้งนี้ เป็นไปตามแนวคิดของกบอ. ที่ต้องการควบคุมน้ำ ให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาได้ไม่เกิน 3500 ลบ.ม./วินาที ซึ่งทางเบี่ยงน้ำทางทิศตะวันตกและตะวันออก จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในจังหวัดที่ท่วมประจำทุกปีอย่างจ.อ่างทอง จ.สิงห์บุรี และจ.พระนครศรีอยุธยาด้วย เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจะไม่เกินขีดความสามารถของลุ่มน้ำอีกต่อไป ทั้งนี้จะรักษาระดับน้ำให้ระหว่างต้นน้ำและปลายน้ำให้ต่างกันราว 18 เมตร

นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการผันน้ำลงทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กล่าวว่า ปัญหาการระบายน้ำลงทะเลด้านตะวันออกไม่ได้อยู่ที่ไม่มีเส้นทางให้น้ำผ่าน เนื่องจากคลองแนวดิ่งเพื่อนำน้ำจากจ.พระนครศรีอยุธยา หรือพื้นที่ที่อยู่เหนือกว่า นั้นมีอยู่แล้ว แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบความพร้อมของสภาพคลอง เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงไม่ได้ติดเครื่องผลักดันน้ำในจุดที่ควรจะอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่คลอง 13 หรือบริเวณคลองชายทะเล ทำให้ระบายน้ำลงได้ไม่มากเท่าที่ควร

ขณะเดียวกัน สภาพพื้นที่บริเวณจากคลองระพีพัฒน์แยกตก ลงคลอง 13 เพื่อไปออกคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก็ยังมีความลาดชันค่อนข้างมาก จึงอยากให้แก้ไขตรงจุดนี้ก่อนที่จะไปคิดถึงโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งถือว่าเกาไม่ถูกที่คัน