กฟผ. เขื่อนมีพื้นที่รับน้ำเพียงพอ

กฟผ. ยันฝนตกชุกเขื่อนมีพื้นที่รับน้ำเพียงพอ ส่งผลดีมีน้ำใช้ในช่วงฤดูแล้ง

นายกิตติ   ตันเจริญ     ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ. หลังจากที่มีฝนตกหนักทั่วไปจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนที่ตามแนวร่องมรสุมระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2555 ส่งผลให้มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ กฟผ.เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 1,083 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) โดย ณ ปัจจุบัน (6 กันยายน 2555 เวลา 24.00 น.) มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ กฟผ. ทั้งหมด 40,445 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 66 ของความจุ ยังน้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 16 หรือ -7,650 ล้าน ลบ.ม. โดยอ่างเก็บน้ำในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่แล้ว มีเพียงอ่างเก็บน้ำในภาคตะวันตก ที่มีปริมาณน้ำในอ่างฯ มากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำโดยทั่วไปมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลเข้าเขื่อนวันละกว่า 80 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนภูมิพลกำลังเริ่มมีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้นเช่นเดียวกัน เขื่อนอุบลรัตน์ที่น่าเป็นห่วงเรื่องน้ำน้อยก็มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นสัญญานที่ดีที่เริ่มมีน้ำไหลเข้าเขื่อน

ปัจจุบัน เขื่อนภูมิพล มีปริมาตรน้ำ 6,710 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุ น้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 38 หรือ -4,080 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้งานได้ 2,910 ล้าน ลบ.ม. มีความจุรองรับน้ำได้อีก 6,752 ล้าน ลบ.ม. จะเห็นได้ว่าความจุที่เหลืออยู่สามารถรองรับน้ำได้ทั้งหมด โดยเขื่อนภูมิพลมีแผนการระบายน้ำวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. ตามแผนการประหยัดน้ำของคณะอนุกรรมการฯ คาดว่าสิ้นสุดฤดูฝนเขื่อนภูมิพลจะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณร้อยละ 68-74 ของความจุ ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนในช่วงที่เหลือ

ด้านเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำ 5,610 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60 น้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 37 หรือ -3,317 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้งานได้ 2,760 ล้าน ลบ.ม. มีช่องว่างรองรับน้ำได้อีก 3,900 ล้าน ลบ.ม.  ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์มีแผนการระบายน้ำวันละ 6 ล้าน ลบ.ม. ตามแผนการประหยัดน้ำของคณะอนุกรรมการฯ คาดว่าสิ้นสุดฤดูฝนเขื่อนสิริกิติ์จะสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณร้อยละ 73-78 ของความจุ

นายกิตติกล่าวว่า แม้สภาพฝนที่ตกในระยะนี้ จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มมากขึ้นในหลายเขื่อนก็ตาม แต่มั่นใจว่าความจุที่สามารถรับน้ำได้ของเขื่อนต่างๆ ยังมีมากพอที่จะรองรับน้ำตลอดช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ยังเป็นผลดีที่ทำให้เขื่อนเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นสำหรับไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย