ยิง M16 ใกล้บ้านนายกฯ-ปาขวดน้ำมันก๊าด พล.ม.2

คนร้าย ยิง  M 16 ในซ.ทองหล่อ 2 จุด ใกล้บ้านนายกฯ  อีกจุด แท๊กซี่เขียว-เหลือง จุดไฟปาขวดน้ำมันก๊าดป่วน!! พล.ม.2 รอ.

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  ร.ต.ท.สุชิน พงษ์คำพันธ์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่บ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เป็นบ้านของนายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ และบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ จึงรุดไปตรวจสอบ โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 15 ปลอก และบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 พบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 25 ปลอกตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ รถยนต์และตัวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบสวนสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขี่จักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ และเลขทะเบียน มาจอดหน้าบ้านดังกล่าว จากนั้นยิงปืนเข้าไปในบ้าน แล้วจึงขับรถไปยิงบ้านเลขที่ 190 ซึ่งบ้านทั้ง 2 หลังเป็นญาติพี่น้องกัน ก่อนจะหลบหนีไปทางซอยสุขุมวิท 53

ทั้งนี้ บ้านเลขที่ 190 พบกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ จึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐานในการสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน

นอกจากนี้  ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ขับรถแท๊กซี่สีเขียว-เหลือง จำนวน 3 คัน โดยพลเมืองดีจำเลขท้ายได้เพียง ทม. 48 ได้จุดไฟเขวี้ยงขวดเครื่องดื่มชูกำลังบรรจุน้ำมันก๊าดเข้าไปในกองพันทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) โดยขวดน้ำมันก๊าดไปถูกรถถังที่จอดอยู่บริเวณภายในด้านหน้า พล.ม.2 รอ.สนามเป้า แตกกระจาย ซึ่งยังคงมีเศษแก้ว และคราบน้ำมันก๊าดบางส่วนหลงเหลืออยู่ที่พื้น ซึ่งไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้มีกระแสข่าวออกมาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้แล้ว

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.)- เมื่อเวลา 11.00 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนตำแหน่งโฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ซอยทองหล่อว่า อาจจะเป็นอาชญกรรมทั่วไป ส่วนจะเกี่ยวข้องกับบ้านนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้นยังไม่ทราบรายละเอียด

"ตอนนี้กำลังประเมินดูอยู่ จะต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปบริเวณทองหล่อหรือไม่ เนื่องจากอยู่ใกล้บ้านของนายกรัฐมนตรี การปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยเราทำทุกวันตามข้อเท็จจริง รวมถึงระบบการเฝ้าระวัง" รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุ