ไฟเขียวเพิ่มสิทธิผู้ป่วยเอดส์

บอร์ด สปสช.ไฟเขียวเพิ่มสิทธิผู้ป่วยเอดส์รับยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น

ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีมติเห็นชอบขยายเกณฑ์การเริ่มรับยาต้านไวรัสของผู้ที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ทุกคนให้สามารถรับยาต้านไวรัสได้เมื่อระดับภูมิต้านทานของร่างกาย (CD4) น้อยกว่าหรือเทียบเท่า 350 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตร (ลบ.มม.) โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป

นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ครั้งนี้ จะใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก 321 ล้านบาท ในระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2559 จะช่วยชีวิตผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีได้มากขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,374 คน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้บอร์ด สปสช.มีมติขยายเกณฑ์การเริ่มรับยาเมื่อผู้ป่วยมีระดับ CD4 น้อยกว่าหรือเทียบเท่า 350 เซลล์/ลบ.มม.แล้ว เพียงแต่ให้สิทธิเฉพาะผู้ป่วยบางกลุ่มเท่านั้น การปรับเพิ่มในครั้งนี้จะทำให้ครอบคลุมผู้ป่วยทุกกลุ่ม

ด้านนางสิรินาฎ นิภาพร จากสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกันตนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่เคยใช้บริการรักษาพยาบาลจากทั้งสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พบว่า ในกรณีที่ยังต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคม แต่ให้มีทางเลือกในการใช้สิทธิบัตรทอง ตามมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545

ทั้งนี้ พบว่าผู้ประกันตน 59.4% ยังคงเลือกใช้บริการรักษาพยาบาลจาก สปส. โดยให้เหตุผลว่ามีความสะดวกในการเข้ารับบริการ มีบริการรักษาพยาบาลที่หลากหลายกว่า ส่วนอีก 24.7% เลือกใช้สิทธิบัตรทอง โดยให้เหตุผลว่ามีคุณภาพการรักษาโรคเรื้อรังดีกว่า

ขณะเดียวกัน ในกรณีที่ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบ ผู้ประกันตน 55.4% ยังคงเลือกใช้บริการจาก สปส. และอีก 23.8% เลือกใช้บริการบัตรทอง โดยให้เหตุผลว่ามีคุณภาพการรักษาโรคเรื้อรังดีกว่า

ขณะที่ นางสุพัชรี มีครุฑ ผู้ตรวจราชการกรม สปส. กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปส.ดำเนินการเพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลมาโดยตลอด จากการประเมินคุณภาพโรงพยาบาลในเครือข่าย สปส.มีโรงพยาบาลที่ได้คะแนน 80-90 ประมาณ 6.78% ส่วนอีก 93.22% เป็นโรงพยาบาลที่ได้คะแนนประเมินเกิน 90 ขึ้นไป