posttoday

ประชุมตม.อาเซียนสู้ก่อการร้าย

03 กันยายน 2555

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยกำลังตื่นตัวเกี่ยวกับการป้องกันคนร้ายข้ามชาติ

โดย...วัสยศ งามขำ

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยกำลังตื่นตัวเกี่ยวกับการป้องกันคนร้ายข้ามชาติ และการอำนวยความสะดวกให้กับพลเมืองอาเซียน ด้วยการเตรียมที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพื่อเป็นตาข่ายดักคนร้ายข้ามชาติ และเหล่าขบวนการก่อการร้าย โดยเตรียมที่จะนำเสนอในเวทีการประชุมความร่วมมือของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอาเซียน ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (3 ก.ย.) ที่ จ.ภูเก็ต

Advance Passenger Processing system (APP) หรือระบบส่งรายชื่อผู้โดยสารล่วงหน้าไปยังปลายทาง จะถูกตำรวจไทยพรีเซนต์และผลักดันให้เป็นนโยบายหลักของระบบตรวจคนเข้าเมืองอาเซียน โดยจะใช้เวทีการประชุมอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง และหัวหน้าฝ่ายกงสุลกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 เป็นเวทีกลางในการที่จะยกระดับการตรวจคนเข้าเมืองอาเซียนให้เป็นมาตรฐาน ทั้งนี้จะยึดแนวทางของออสเตรเลียที่ทำระบบนี้สำเร็จแล้วเป็นแม่แบบ

พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ไทยเตรียมที่จะเสนอผลการปฏิบัติงานในรอบปีที่ผ่านมา ในเรื่องของการผ่านแดน การพัฒนาหน่วยงาน โดยเน้นไปที่เรื่องการป้องกันการใช้ท่าอากาศยานนานาชาติเป็นสถานที่ในการเคลื่อนย้ายหรือกระทำความผิดในเรื่องยาเสพติด การก่อการร้ายสากล และการค้ามนุษย์ โดยเน้นไปที่โครงการ APP ซึ่งถือเป็นโครงการใหม่ที่ในประเทศอาเซียนกำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีประเทศไหนทำสำเร็จ ครั้งนี้จึงต้องมีการนำเสนอในส่วนของไทยที่ทำคืบหน้าไปมากแล้ว

เขาบอกว่า ระบบ APP นี้ จะเป็นการส่งรายชื่อและข้อมูลส่วนบุคคลของผู้โดยสารล่วงหน้าไปยังปลายทาง โดยจะส่งก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินเพื่อให้ตำรวจ ตม. ที่ปลายทางได้ตรวจสอบรายชื่อของผู้โดยสารว่ามีผู้โดยสารที่ประเทศนั้นไม่พึงประสงค์หรือไม่ หากตรวจสอบพบก็สามารถแจ้งไปยังต้นทางเพื่อระงับการเดินทางได้ทันทีก่อนที่จะขึ้นเครื่องบิน ซึ่งวิธีการนี้นับว่าเป็นวิธีการที่สะดวกมาก และมีการใช้แล้วในหลายประเทศ ทั้งยุโรปและเอเชีย รวมทั้งออสเตรเลีย ที่จะมาเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มอาเซียนในครั้งนี้ด้วยในฐานะที่อยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกัน และมีพัฒนาการในการตรวจคนเข้าเมืองที่มีมาตรฐาน

“วิธีการนี้ถือว่าเป็นการตัดโอกาสคนร้าย และอำนวยความสะดวกให้กับคนดี เพราะนอกจากจะสกัดคนร้ายได้อย่างทันท่วงทีแล้ว จากการได้ตรวจสอบหมายจับ และแบล็กลิสต์ล่วงหน้าแล้ว ยังทำให้การผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองทำเวลาได้ดีขึ้นด้วย” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว เขายังบอกด้วยว่า โดยปกติแล้วการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หากเป็นคนไทยที่ผ่านมาทางประตูอิเล็กทรอนิกส์จะใช้เวลาไม่เกิน 20 วินาทีต่อคน และหากผ่านทางช่องทางปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน แต่หากระบบ APP เสร็จสิ้นจะใช้เวลาผ่านทางช่องทางปกติเพียง 2030 วินาทีเท่านั้น ทำให้เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น

ประชุมตม.อาเซียนสู้ก่อการร้าย

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ไทยจะผลักดันเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเราได้พัฒนาข้อมูลไปไกลมากแล้ว อย่างไรก็ตาม ระบบนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากสายการบินด้วย อีกทั้งยังมีเรื่องงบประมาณมาเกี่ยวข้อง อาจจะทำให้โครงการล่าช้าไปบ้าง แต่ก็น่าเชื่อว่าจะเสร็จทันก่อนที่จะเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนในประเทศอาเซียน นอกจากนี้ หากเราทำระบบนี้เสร็จสิ้นก็จะสามารถเชื่อมข้อมูลกับสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่นๆ ที่มีระบบนี้ใช้อยู่ได้ทันที ซึ่งจะทำให้การตรวจคนเข้าเมืองของไทยมีมาตรฐานมากขึ้น

“ไทยและอาเซียนจะคุยในเวทีพิเศษกับออสเตรเลียด้วย ในการให้ความช่วยเหลือในเรื่องระบบและอุปกรณ์ต่างๆ เพราะเขามีพัฒนาการที่ดีเทียบเท่ากับประเทศตะวันตก มีงบประมาณในการสนับสนุนสูง และออสเตรเลียก็กังวลเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์และลักลอบเข้าเมืองด้วย จึงให้ความสนใจกับอาเซียนเป็นพิเศษ” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว และว่า นอกจากนี้ ออสเตรเลียจะให้การสนับสนุนในการอบรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างประเทศในอาเซียนด้วย

ด้าน พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บังคับการประจำ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการของการประชุม กล่าวว่า นอกจากการประชุมข้างต้นแล้วยังมีการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวหน่วยตรวจคนเข้าเมืองครั้งที่ 8 ด้วย ซึ่งเวทีนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับแก๊งปลอมหนังสือเดินทาง แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ด้านพัฒนาการทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น โดยการประชุมจะมีการหารือทวิภาคีระหว่างอาเซียนและออสเตรเลีย ด้วย

พล.ต.ต.รอย กล่าวว่า ผลการประชุมที่ได้ในครั้งนี้นอกจากพัฒนาโครงการที่เกิดขึ้นในอนาคตแล้ว หลายประเทศจะสามารถนำเอาข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้กับประเทศตัวเอง อย่างเช่น ระบบ APP ที่เราจะเร่งผลักดัน เป็นต้น ขณะเดียวกันการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันก็เป็นเรื่องดี ไทยเองก็จะได้รู้ทันสถานการณ์ในภูมิภาคที่เกิดขึ้นและรู้ทันต่อรูปแบบ และวิธีการกระทำความผิดของแต่ละประเทศ อีกทั้งรับรู้ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ เกี่ยวกับกลุ่มคนที่ไม่พึงประสงค์ของโลกด้วย

สำหรับเวทีในการประชุมครั้งนี้นั้น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทยรับเป็นเจ้าภาพ หลังจากครั้งที่แล้วมีขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ โดยการประชุมจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 ก.ย. ที่โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ภูเก็ต โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะประกอบด้วยระดับหัวหน้าหน่วยตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กงสุล และเจ้าหน้าที่ด้านการข่าว รวมแล้วราว 50 ชีวิต โดยมีจุดประสงค์ร่วมกันก็เพื่อเตรียมตัวที่จะก้าวเข้าสู่เวทีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558