posttoday

ศูนย์นิติศาสตร์มธ.แถลงพอใจคดีสาวซีวิค

01 กันยายน 2555

ศูนย์นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ พอใจคำตัดสินคดีสาวซีวิค เตรียมดำเนินคดีแพ่งหลังคดีอาญาสิ้นสุด

ศูนย์นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ พอใจคำตัดสินคดีสาวซีวิค เตรียมดำเนินคดีแพ่งหลังคดีอาญาสิ้นสุด

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ศูนย์นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บออกแถลงการณ์คดี น.ส.เอ ( นามสมมุติ) อายุ 18 ปี จำเลย ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย ที่ถูกศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาลงโทษจำคุก ระบุว่า

ตามที่เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม  ที่ผ่านมา ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้มีคำพิพากษาในคดีอาญากรณีอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์แล้วนั้น คณะกรรมการกฎหมายเพื่อดูแลคดีที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่ผู้เสียหาย และได้แต่งตั้งทนายความของศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)ให้เป็นตัวแทนผู้เสียหายตามการร้องขอของผู้เสียหายเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ทางศูนย์นิติศาสตร์ มธ.จึงขอแถลงให้สาธารณชนได้ทราบถึงผลของการดำเนินคดีอาญาและแนวทางการดำเนินคดีต่อไป ดังนี้

1 คดีอาญาซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องจำเลยซึ่งเป็นเยาวชนในข้อหาขับรถ โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส และได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ รวมทั้งข้อหาขับขี่รถขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น หลังจากการสืบพยานเสร็จสิ้น ศาลเยาวชนฯ ได้มีคำสั่งในวันที่ 22 กรกฎาคม 2555 ให้มีการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้เสียหายและจำเลยภายใน 30 วัน แต่ผู้ไกล่เกลี่ยแจ้งว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้และคู่กรณีประสงค์จะให้อ่านคำพิพากษา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2555 ศาลเยาวชนฯ จึงได้อ่านคำพิพากษาซึ่งมีใจความโดยสรุปว่า “จำเลยมีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและสาหัส จึงพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี แต่ให้รอการลงโทษมีกำหนด 3 ปี”

พร้อมกับกำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติจำเลยหลายประการ คณะกรรมการกฎหมายเพื่อดูแลคดีที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ในนามของผู้เสียหายใคร่ขอขอบคุณพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานอัยการที่ได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และขอบพระคุณศาลสถิตยุติธรรมที่ได้ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ผู้เสียชีวิตทั้ง 9 คน รวมถึงขอขอบคุณพยานทุกท่านที่เข้าเบิกความตามความเป็นจริง ถึงแม้โทษจะเป็นเพียงการรอการลงโทษ แต่ผู้เสียหายยอมรับคำพิพากษาทุกประการ เนื่องจากผู้เสียหายมิได้ประสงค์ที่จะให้จำเลยต้องถูกลงโทษจำคุกแต่ประการใด เพียงแต่ต้องการความเป็นธรรม เนื่องจากจำเลยมิได้ยอมรับผิดว่าได้ขับรถโดยประมาท และเชื่อมั่นว่าผลของคดีจะได้เป็นบรรทัดฐานสำหรับทุกฝ่าย รวมถึงผู้ปกครองจะได้ตระหนักถึงความรับผิดชอบในการปล่อยให้ผู้เยาว์ในความปกครองของตนขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ เพื่อนำไปสู่ความปลอดภัยที่มีมากขึ้นบนท้องถนนของประเทศไทยต่อไป

2 ในส่วนของคดีแพ่ง ซึ่งผู้เสียหายโดยทนายความของศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง จำนวน 13 คดี โดยฟ้องเยาวชนผู้ก่อเหตุและบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งจะต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายนั้น ศาลแพ่งยังไม่ได้พิพากษาเนื่องจากว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ข้อเท็จจริงในคดีอาญาย่อมผูกพันไปถึงคดีแพ่ง จึงต้องรอให้คำพิพากษาคดีอาญาถึงที่สุดก่อน ซึ่งในขณะนี้คดีอาญายังไม่ถึงที่สุดเนื่องจากคู่ความมีสิทธิที่จะอุทธรณ์ภายใน 30 วันหลังจากมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น

3 สำหรับในเรื่อง ค่าเสียหายในทางแพ่ง นั้น ทนายความของศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้เสียหาย ได้พิจารณาบนพื้นฐานของสิทธิตามกฎหมายของผู้เสียหาย ทั้งนี้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแก่ผู้เสียหายแต่ละราย โดยพิจารณาจากแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ได้เคยตัดสินเป็นบรรทัดฐานเอาไว้ มิได้มีการใช้สิทธิเกินเลยไปจากที่กฎหมายกำหนด หรือเกินเลยไปจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่เคยตัดสินไว้แต่ประการใด ซึ่งเมื่อคดีอาญาถึงที่สุดแล้วจะได้มีการแถลงให้สาธารณชนทราบในเรื่องนี้ต่อไป

ทั้งนี้คณะกรรมการกฎหมายเพื่อดูแลคดีที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ และทนายความของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ทำหน้าที่โดยยืนอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายทุกประการ การดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นการเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ หรือการฟ้องคดีแพ่งให้ผู้เสียหาย มีความประสงค์แต่เพียงเพื่อให้เกิดความยุติธรรมต่อทุกฝ่าย และต้องการให้เกิดบรรทัดฐานที่ดีในสังคม โดยมิได้มีความประสงค์จะทำให้จำเลยต้องถูกเกลียดชังแต่ประการใด จึงใคร่ขอให้การใช้สิทธิวิพากษ์วิจารณ์กันในเรื่องนี้ให้เป็นไปในขอบเขตของกฎหมายและการเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างสังคมที่ดีงามร่วมกันต่อไป