posttoday

คุก 2 ปี สาวซีวิคชนรถตู้ดับ9ศพ

31 สิงหาคม 2555

ศาลเยาวชน สั่งจำคุก สาวซีวิค 3ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2ปี ให้รอลงอาญา 3 ปี คุมประพฤติ และห้ามขับรถจนถึงอายุ 25ปี

ศาลเยาวชน สั่งจำคุก สาวซีวิค 3ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2ปี ให้รอลงอาญา 3 ปี คุมประพฤติ และห้ามขับรถจนถึงอายุ 25ปี

เวลา 09.00 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางนัดฟังคำพิพากษา คดีเยาวชนหญิง อายุ 17 ปี ขับรถยนต์ฮอนด้าซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสาร บนทางยกระดับโทลเวย์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย เวลา 9.00 น.วันนี้   ขณะที่กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงศาลแล้ว ไปไหว้ขอพร ศาลหลักเมือง เพื่อให้คดีสิ้นสุด และขอให้ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่ เยาวชนหญิง อายุ 17 ปี จำเลยในคดี เดินทางมาด้วยรถตู้ พร้อมทนายความ เข้าทางด้านหลังของศาล เพื่อหลีกเลี่ยงสื่อมวลชน และมีสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งทางศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณีเข้ารับฟังคำตัดสินในห้องพิจารณาเท่านั้น

พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดาของ น.ส.ชุติพร นิลวรรณ นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ อีก 1 ในครอบครัวผู้เสียชีวิตคดีชนสาวซีวิคชนรถตู้ ตาย 9 ศพเปิดเผยว่า  เดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานีพร้อมภรรยาไปรับฟังคำพิพากษา ทั้งนี้ อยากทราบว่าแท้จริงแล้วฝ่ายรถตู้หรือรถซีวิคขับรถประมาทกันแน่ สำหรับกรณีที่จำเลยไม่เคยพูดคำว่าขอโทษตนเองเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะเกรงกระทบรูปคดี แต่หวังว่าศาลจะตัดสินเป็นคุณต่อฝ่ายโจทย์ ส่วนที่เรียกร้องเงินชดเชย 120 ล้านบาทนั้นมองว่าไม่มากเกินไปเพราะเมื่อเทียบกับสูญเสียแล้วประเมินค่าไม่ได้ 

ทั้งนี้ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พิพากษา จำคุก 3 ปี เยาวชนหญิงแต่ให้ลดโทษลงเหลือ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน นอกจากนี้ให้คุมประพฤติเป็นเวลา 3 ปี และห้ามขับรถจนถึงอายุ 25 ปี

นางยุวดี เยี่ยงยุกดิ์สากล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยภายหลังศาลมีคำพิพากษา ว่าศาลได้พิเคราะห์จากพยานหลักฐาน ทั้งพยานแวดล้อม และพยานบุคคล รวมทั้งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ และการนำสืบเป็นประโยชน์ จึงพิพากษาดังกล่าว แต่ในความผิดฐานโทรศัพท์ขณะขับขี่ ไม่สามารถนำสืบได้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานที่สามารถยืนยัน ส่วนการเรียกค่าเสียหายเป็นเรื่องของคดีทางแพ่ง แต่เบื้องต้น จำเลยได้มีการบรรเทาโทษด้วยการจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายต้องพิจารณา

ภายหลังศาลเยาวชน มีคำพิพากษา เยาวชนหญิงคนดังกล่าวได้เดินทางกลับทันที โดยขึ้นรถตู้ออกด้านหลังศาล เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชน ขณะที่ญาติผู้เสียหายส่วนใหญ่ ค่อนข้างพอใจกับคำตัดสินของศาล นางทองพูน พานทอง มารดานางสาวนฤมล ปิตาทานัง คนขับรถตู้ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่กระบวนการยุติธรรม สามารถชี้ให้เห็นว่า ใครเป็นคนผิด และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากลูกตนเอง

ขณะที่ พ.ต.อ.ศรัณ นิลวรรณ บิดาของนางสาวสุดาวดี นิลวรรณ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกหนึ่งผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกพอใจในคำพิพากษาของศาล แต่หากบุตรสาวยังมีชีวิต จะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรไปเมื่อวานนี้ ส่วนการเรียกค่าเสียหาย ได้มีการฟ้องแพ่งไปแล้ว ซึ่งผู้เสียหายแต่ละรายแยกกันฟ้องเป็นรายบุคคล และศาลแพ่งนัดสืบพยานครั้งแรก วันที่ 21 พฤศจิกายนนี้

 

 

คุก 2 ปี สาวซีวิคชนรถตู้ดับ9ศพ กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตไหว้ขอพร ศาลหลักเมือง เพื่อให้คดีสิ้นสุด และขอให้ได้รับความเป็นธรรม