posttoday

ก.ตร.วอล์คเอาท์ค้านโผตั้งผบก.-รองผบช.

29 สิงหาคม 2555

"เฉลิม"เจอ ก.ตร.วอล์คเอาท์ หลังนั่งหัวโต๊ะถกโผแต่งตั้งผบก.-รองผบช. "อชิรวิทย์"โวยบางตำแหน่งไม่เหมาะทั้งคุณสมบัติ-หลักเกณฑ์

"เฉลิม"เจอ ก.ตร.วอล์คเอาท์ หลังนั่งหัวโต๊ะถกโผแต่งตั้งผบก.-รองผบช. "อชิรวิทย์"โวยบางตำแหน่งไม่เหมาะทั้งคุณสมบัติ-หลักเกณฑ์

ก.ตร.วอล์คเอาท์ค้านโผตั้งผบก.-รองผบช. ร.ต.อ.เฉลิม/พล.ต.อ.อชิรวิทย์

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี   กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ  ก.ตร.ครั้งที่ 12

วาระการประชุมที่สำคัญคือ การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ผบก. –รองผบช. ทั่วประเทศ  โดยมีผบช.แต่ละหน่วยเดินทางมาชี้แจงต่อคณะกรรมการโดยพร้อมเพรียงเริ่มจาก ผบช.น. เป็นหน่วยแรก บช.ก. บช.ภ. 1-9 ศชต.  บช.ปส. บช.ส.  สตม. บช.ตชด.  สพฐ.ตร.  สทส. สง.นรป.  บช.ศ. รร.นรต.  รพ.ตร.และ สง.ผบ.ตร.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ที่ การแต่งตั้งเริ่มขึ้นเพียง 2 หน่วยแรก พล.ต.อ.อชิรวิทย์  สุพรรณเภสัช   พล.ต.อ.ชาญชิต  เพียรเลิศ พล.ต.อ.บุญญฤทธิ์  รัตนะพร   พล.ต.ท.ศุภวุฒิ  สังข์อ่อง  และ รศ.ร.ต.อ.สรพลจ์  สุขทรรศนีย์  ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้เดินออกจากห้องประชุมเนื่องจากไม่พอใจที่ไม่สามารถทักท้วงในที่ประชุมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจบางตำแหน่ง  ได้ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมยังดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากองค์ประชุมครบ  โดยวาระการแต่งตั้งใช้เวลาเพียง 1ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่พอใจที่ประชุม เปิดเผยว่า  ก.ตร.ได้มีการนำเสนอหลักเกณฑ์ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่เห็นว่าเป็นข้อบกพร่อง ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้มีบางรายชื่อที่ทาง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่ามีความไม่เหมาะสม ทั้งในเรื่องคุณสมบัติและในเรื่องหลักเกณฑ์ รวมถึงมีบางรายชื่อที่มีการปรับเปลี่ยนแบบกะทันหันภายในที่ประชุม ซึ่งทางตนก็ได้มีการอภิปรายในประชุมแล้ว โดยทางประธาน ก.ตร.ก็มีการรับฟัง แต่ก็มีการดำเนินการแต่งตั้งเช่นเดิม ทางเราจึงเห็นว่ามีสัญญาณที่เชื่อได้ว่า คงจะไม่เกิดผลอะไร จึงได้เดินออกมาจากที่ประชุม โดยไม่ได้นัดกับ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ คนอื่นแต่อย่างใด 

ก่อนเริ่มประชุมได้มีการนำเอกสารชี้แจงไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ถึงการแต่งตั้งไม่เป็นธรรมในระดับ รอง ผบช. – ผบก. โดยเฉพาะหลักเกณฑ์การแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่ง เมื่อครบวาระในปีแรก ตามกฎ ก.ตร.ข้อ 33 ที่ระบุว่า การคัดเลือกหรือแต่งตั้งผู้เหมาะสมที่จะได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ที่เพิ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนในปีแรกให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ผู้นั้นต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีผลการปฏิบัติงานดีเด่น เป็นที่ประจักษ์ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง โดยมีผลปฏิบัติงานเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้อยากจะเรียนชี้แจงว่า ในระดับ ผบก.เลื่อนขึ้นเป็น รอง ผบช.ตามข้อกฎ ก.ตร.ข้อ 33 มีทั้งสิ้น 18 นาย ระดับรอง ผบก.เลื่อนขึ้น ผบก.มี 20 นาย โดยตนพบเพียงแค่บัญชีนำเสนอของ บช.ภ.5 เท่านั้น ที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ที่นำรายละเอียดมาประกอบการพิจารณาอย่างครบถ้วน เช่น พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.ภ.จว.พะเยา ขึ้นเป็นรอง ผบช.ภ.5 และ พ.ต.อ.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย ขึ้นเป็น ผบก.ภ.จว.เชียงราย

ตรงนี้พบว่าทาง บช.ภ.5 ได้บรรยายสรุปผลงานว่า นายตำรวจทั้ง 2 นายดังกล่าว สามารถดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล ได้เป็นลำดับ 1 ของประเทศ ซึ่งถือว่าเหมาะสม ต่างกับ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ที่มีผลงานโดดเด่น และมีอาวุโส แต่กลับไม่ได้เลื่อนขึ้น

ขณะที่ พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม ผบก.ภ.จว.ชุมพร ที่มีอาวุโสน้อยกว่า พล.ต.ต.รณพงษ์ แต่ในบัญชีกลับได้เลื่อนขึ้นเป็น รอง ผบช.ภ.8 รวมถึง พ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบก.สส.ภ.8 ที่มีผลงานปราบยาโดดเด่น และมีอาวุโสมากกว่า พ.ต.อ.ชลิต แก้วยะรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ที่ได้เลื่อนเป็น ผบก.ภ.จว.พังงา ส่วน พ.ต.อ.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี อาวุโสลำดับที่ 1 ได้เลื่อนเป็น ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี แต่ไม่ได้มีการแสดงเหตุผลชัดเจนว่า มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์อย่างไร

ต่อมาเวลา 16.30 น.  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานก.ตร. กล่าวภายหลังการประชุม ก.ตร.ว่า ก็ถือเป็นการแต่งตั้งที่เรียบร้อยดี ถูกต้องชอบธรรม และที่สำคัญที่สุดการแต่งตั้งเท่าที่ตนเองมาอยู่ไม่ต้องเสียเงินเสียทอง ตำรวจยุคนนี้เป็นยุคที่มีฝีมือจริงๆ แต่การแต่งตั้งครั้งนี้จะให้ถูกใจ ทุกคนไม่ได้ 

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การที่ก.ตร.ผู้ทรงได้แสดงออกโดยการเดินออกจากห้องประชุม นั้น ตนเองไม่ทราบ มีการทำบันทึกมาเราก็ได้ชี้แจงไปแล้วก็เข้าใจแล้ว วันนี้ต้องเห็นใจผู้บังคับบัญชาตำรวจเพราะเขาต้องรับผิดชอบ การแต่งตั้งครั้งนี้ถือว่าสง่างามไม่ปัญหา ปัญหามีอย่างเดียวอย่าไปเรียกรับทรัพย์สินเงินทองเท่านั้น

ด้านพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. กล่าวถึงการแต่งตั้งระดับผบก.-รองผบช.ว่า ยังไม่หนักใจเรื่องของการแต่งตั้งที่เกิดขึ้น เพราะก็ได้พูดตามความเป็นจริง ตามความเห็นคิดว่า น่าจะมีการพูดคุยกันระหว่าง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิก่อนที่จะมีการเข้าประชุม แต่ไม่น่าจะเดินออกไปข้างนอกเร็วเกินไปน่าจะฟังคำอธิบาย

ถามว่า ก.ตร. ผู้ทรงคิดว่าการตั้งแต่งตั้งไม่เป็นธรรม ผบ.ตร.มีความคิดเห็นอย่างไรนั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ในส่วนหนึ่ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นได้ ส่วนการกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษาสบ 10 ด้านสืบสวน เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากยังไม่ผ่านคณะอนุก.ตร.ด้านบริหารงานบุคคล จึงเลื่อนการพิจารณาคราวหน้า