posttoday

สตช.เตือนมิจฉาชีพอ้างโครงการหลวง

29 สิงหาคม 2555

โฆษกสตช.เตือนอย่าหลงเชื่อแก็งมิจฉาชีพอ้างโครงการพระราชดำริแสวงหาประโยชน์ พบให้แจ้งความจับได้ทุกท้องที่

โฆษกสตช.เตือนอย่าหลงเชื่อแก็งมิจฉาชีพอ้างโครงการพระราชดำริแสวงหาประโยชน์ พบให้แจ้งความจับได้ทุกท้องที่

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มบุคคลแอบอ้างโครงการพระราชดำริไปแสวงหาผลประโยชน์ ว่า เรื่องดังกล่าวทางตำรวจสันติบาลได้มีการสืบสวนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลแอบอ้างใช้ชื่อโครงการพระราชดำริ ไปหลอกลวงประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด อาทิ โครงการธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซล ที่มีการนำพระบรมฉายาลักษณ์ และตราพระราชพิธีกาญจนาภิเษกไปใช้โดยพลการ

พร้อมทั้งแอบอ้างสำนักพระราชวังเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในการชักชวนประชาชนเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยประชาชนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวต้องจ่ายค่าขึ้นป้ายรายละ 7,000 บาท เพื่อแลกกับการรับซื้อหนี้ 3 เท่า พักหนี้ 5 ปี หากเป็นประธานและกรรมการจะได้รับเงินเดือน 15,000 -30,000 บาท เมื่อเกษียณจะได้รับเงินเดือนอีกเดือนละ 15,000 บาท มีผู้ตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการพระราชดำริ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าโครงการดังกล่าวที่บุคคลเหล่านี้เอาไปแอบอ้างไม่มีอยู่ในสารบบของโครงการพระราชดำริ

นอกจากนี้ยังมี กลุ่มสหกรณ์พลังแม่น้ำแผ่นดินสีเขียว จำกัด ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างสถาบันเช่นเดียวกัน โดยอ้างว่าหากลงทะเบียนคนละ 1,000 บาท จะได้รับจัดสรรที่ดินจากรัฐบาลรายละ 10 ไร่ เป็นเรื่องต่อเนื่องมา 2-3 ปี แต่ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามกระทรวงมหาดไทยได้มีการออกประกาศเตือนประชาชนเมื่อปี 2553 ขณะที่เมื่อปี 2554 ตำรวจ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้ดำเนินการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วบางส่วน แต่ปรากฏว่าช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา ยังมีการร้องเรียนว่ายังมีการใช้ชื่อโครงการนี้ไปหลอกลวงประชาชน

ทางกองบัญชาตำรวจสันติบาลจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าหากมีการแอบอ้างทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด หากคนที่ถูกหลอกลวงสามารถเข้าร้องทุกข์กับสถานีตำรวจทุกแห่งเพื่อที่จะติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้มาดำเนินคดี ก่อนที่จะบุคคลอื่นได้รับความเสียหายเพิ่มอีก