พลเมืองดีพึงระวัง หากหวังดีช่วยจับคนร้าย

โดย...กันติพิชญ์ ใจบุญ

ในสังคมแทบจะทุกแห่งมักจะมีเหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวปะปนอาศัยจังหวะก่อเหตุ ทั้งประทุษร้ายต่อทรัพย์ ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ซึ่งบางครั้งก็อาจกระทบถึงร่างกายและชีวิต ประชาชนทั่วไปอาจจะเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันโดยเหล่าคนร้ายเอาได้ง่ายๆ

แต่สังคมย่อมมีคนดี เมื่อพบเห็นเหตุร้ายซึ่งหน้า ก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยดูดาย หลายเหตุการณ์ที่โจรก็ต้องจนมุมกับพลเมืองดี แต่ก็มีหลายกรณีเช่นกันที่พลเมืองดีต้องพลาดท่ากลายเป็นเหยื่อโจรเพิ่มเข้าไปอีก

เมื่อเล็งเห็นปัญหานี้ ประกอบกับกำลังตำรวจที่ดูเหมือนจะมีไม่เพียงพอ ทำให้การดึงพลังประชาชนเข้ามาช่วยงาน ก็ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดี แต่การจับกุมคนร้ายก็ต้องมีวิชา มีเทคนิคด้วยเหมือนกัน ในกรณีที่ไปเจอคนร้ายเข้า แต่อยากช่วยทางการเข้าไปจับกุม จะได้ทราบเอาไว้ถึงวิธีการ

นายตำรวจชุดสืบสวนจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) นายหนึ่ง เล่าถึงการจับคนร้ายโดยฝีมือของประชาชนว่า ตามปกติแล้วประชาชนหรือราษฎร จะไม่มีอำนาจในการจับกุมคนร้าย เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องเท่านั้น แต่ทั้งนี้กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามเด็ดขาดว่าไม่ให้ประชาชนธรรมดาจับกุมผู้กระทำผิดโดยสิ้นเชิง

เพราะในปัจจุบันสังคมมากไปด้วยเหล่ามิจฉาชีพอาชญากร ตำรวจก็มีกำลังไม่เพียงพอ อาจจะดูแลไม่ทั่วถึงเอาได้ ประชาชนก็สามารถเข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ได้ในเหตุเฉพาะหน้า

“เมื่อพบการกระทำผิดซึ่งหน้า เฉพาะความผิดประเภทที่กฎหมายระบุไว้ กรณีนี้ประชาชนผู้พบการกระทำผิดนั้นสามารถทำการจับกุมได้ทันที โดยไม่ต้องรอเจ้าพนักงานร้องขอ แต่ทั้งนี้ต้องดูที่ความผิดของผู้ก่อเหตุด้วย และต้องเป็นกรณีที่พบการกระทำผิดซึ่งหน้า”

แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นความผิดอะไรบ้าง ที่ประชาชนเมื่อไปพบเห็นเข้าจะได้ช่วยตำรวจทำงานเพื่อสังคมบ้าง นายตำรวจหนุ่มคนเดิมให้คำตอบว่า ความผิดที่เห็นซึ่งหน้าถูกระบุไว้ในกฎหมายอาญาชัดเจน จะประกอบไปด้วย 1.ความผิดต่อเจ้าหน้าที่ 2.ความผิดฐานหลบหนีจากที่คุมขัง 3.ความผิดต่อศาสนา 4.ความผิดปลอมแปลงเงินตรา 5.การก่อการจลาจล 6.ข่มขืนกระทำชำเรา 7.ทำร้ายร่างกาย 8.ฆ่าคนตาย 9.หน่วงเหนี่ยวกักขัง 10.ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ โดยทั้ง 10 ข้อนี้ หากพบเห็นและมีโอกาสสามารถตะครุบไว้ได้เลย

เฉกเช่นที่เห็นข่าวในสื่อต่างๆ จะเห็นพลเมืองดีหลายคนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้าย บางรายก็ทำรุนแรงจนเกินไป ทำให้โจรหงอไปเหมือนกัน หรือบางครั้งบางคราวที่พลเมืองดีที่หวังดีจะเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยที่ว่าไม่มีความรู้ด้านการจับกุม หรือการป้องกันตัว ทำให้ตัวเองพลอยเดือดร้อนถูกทำร้ายเอาได้เหมือนกัน

“การป้องกันตัวของพลเมืองดีที่จะเข้าไปจับกุมคนร้าย สามารถกระทำได้แน่นอน แต่ว่าต้องอยู่ในขอบเขตตามที่พอสมควรแก่เหตุ ไม่ใช่ว่าจับได้มาแล้วจะพากันรุมทำร้ายซ้ำเติมเข้าไปอีก หรือทำให้บาดเจ็บถึงขั้นสาหัส ก็จะมีความผิดตามไปด้วย ดังนั้นพลเมืองดีต้องระวังความผิดไว้ด้วยเช่นกัน แต่ในกรณีที่พลเมืองดีถูกทำร้าย หรือไม่แน่ใจว่าจะเข้าไปจับกุมคนร้ายได้ ให้จดจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายให้ชัดเจน รวมถึงพฤติกรรมการก่อเหตุและเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เพื่อจะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสกัดจับได้ทันที”

อย่างไรก็ตาม ความหวังดีของประชาชนที่ต้องการเห็นสังคมอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข การพบเห็นการกระทำความผิดต่างๆ ก็อยากจะเข้าไปช่วยจับกุมคนร้ายส่งดำเนินคดีด้วยความหวังดี แต่ที่สำคัญหากเข้าไปจับกุมคนร้าย ต้องดูพฤติกรรม ดูความปลอดภัยของตนเองด้วย หากสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปลุย อาจจะกลายเป็นฝ่ายที่เสียท่าให้กับคนร้ายเข้าไปอีก

และอีกอย่างสำหรับพลเมืองดี ต้องดูเหตุซึ่งหน้าที่เกิดขึ้นด้วย หากนอกเหนือจากนี้แล้วไปจับกุมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่มีอำนาจในการจับกุมแทนเจ้าหน้าที่ อาจจะโดนข้อหาทำให้ผู้อื่นเสียอิสรภาพเข้าไปอีก รวมถึงอีกมากมายทั้งบุกรุก หรือทำร้ายร่างกาย ต้องระวังให้ดี เพราะในบางครั้งความหวังดีอาจจะนำความซวยมาเยือนตัวเอง นอกจากนี้ตำรวจเองหากพบเห็นเหตุ หรือได้รับแจ้งเหตุต่างๆ ก็ควรจะรีบมาที่จุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้ช่วยเหลือเจ้าทุกข์และตามจับกุมคนร้ายตามหน้าที่ของตนเอง!!!