ดีเอสไออายัดทรัพย์แก๊งค้ามนุษย์320ล.

ป.ป.ง.สนธิกำลังตำรวจสงขลาบุกอายัดทรัพย์แม่เล้าแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติมูลค่า 320 ล้านบาท

ร.ต.อ.หญิงสุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ฝ่ายปฎิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวภายหลังจาก  พ.ต.ท.ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนทางการเงินปปง. ร่วมกับพ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวลพลและชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำหมายศาลจังหวัดนาทวี เข้าตรวจค้นบ้านพักของนางประนอม แปรโคกสูง อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ เลขที่ 999/2 และบ้านเลขที่ 999/6 ม.7 ต.สำนักขาม จ.สงขลา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาและขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างสืบพยานชั้นศาล

ก่อนหน้านี้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีหนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อขอความช่วยเหลือคุ้มครองหญิงสาวชาวลาวที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ คือ น.ส.คำ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และ น.ส.วัน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ซึ่งถูกนายหน้าชาวไทย หลอกลวงมาทำงานที่เมืองไทย ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ดีเอสไอและพนักงานฝ่ายปกครองได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ ร้านชาลี 259 คาราโอเกะ ช่วยเหลือหญิงเหยื่อค้ามนุษย์ได้ 58 คน และร้านชาลีบ้านสปา ช่วยเหลือหญิงทั้งหมด 12 คน รวมทั้งสิ้น 70 คน โดยจำนวนนี้มีผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 24 คน 

ร.ต.อ.หญิงสุวนีย์ กล่าวอีกว่า คดีนี้นางประนอม เจ้าของร้านฯได้ออกมาปฎิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และผู้หญิงที่เข้ามาทำงานบริการก็มาด้วยความสมัครใจไม่ได้ถูกบังคับ แต่ทางสถานทูตลาวออกมา ระบุว่า มีคนของเขาถูกหลอกมาค้าประเวณีซึ่งลักษณะคดีที่เกิดขึ้นเข้าข่ายการค้าประเวณีและเป็นธุระจัดหาถือเป็นการทำความผิดข้ามประเทศในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งปปง.ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทางคดี  ทำการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของ นางประนอม และพวก รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ปรากฏว่าข้อมูลพยานหลักฐานว่า นางประนอม กับพวก มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลฐาน ได้ไปซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด จึงได้เสนอต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อให้ยึด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนางประนอม กับพวกรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

“คดีนี้บอร์ดมีมติเบื้องต้นให้ยึดทรัพย์นางประนอมไว้ชั่วคราวทั้งหมดมูลค่า 320 ล้านบาท ตามที่ประกาศของคณะกรรมการธุรกรรมฯเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา และทำการอายัดบัญชีทรัพย์สินเป็นสมุดบัญชีเงินฝากหมุนเวียน ที่ดินจำนวน 2 แปลงในอ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส รวมทั้งอพาร์ทเม้นท์ในอ.สงขลา อีก 1 แห่ง จากนี้จะสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องว่ามีการยักย้ายถ่ายเทไปไว้ที่อื่นอีกหรือไม่”รองเลขาธิการปปง. กล่าว