ตร.ใช้ฮ.ล่าโจรค้ายาดวลปืนดับ1

ตำรวจใช้เฮลิปคอปเตอร์ล่าคนร้ายค้ายาบ้าหลังก่อเหตุชักปืนยิงต่อสู้ดับ1ย่านฐานทัพอากาศ ดอนเมือง

ภาพ/ธิติ วรรณมณฑา

เจ้าหน้าที่ปส.และหน่วยอรินทรราช 26 เข้าตรวจค้นล้อมป่ากกขนาดใหญ่ เพื่อหาตัวคนร้าย รวมทั้งประสานเฮลิคอปเตอร์และเครื่องสแกนความร้อน มาร่วมในการค้นหา หลังเกิดเหตุคนร้ายถูกวิสามัญที่หน้าฐานทัพอากาศดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงและเขตดอนเมือง กทม.

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.ท.เตชวัตร ทองศรี พงส.(สบ3) สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุดังกล่าวจึงพร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าประตูทางออกฐานทัพอากาศดอนเมือง พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดี-แม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้า มีแต่ป้ายทะเบียนหลัง ที่ติดทะเบียน ลษ 9447กรุงเทพมหานคร สภาพล้อรถหลังด้านคนขับถูกยิง รถเสยพุ่งเข้าสนามหญ้า กระจกหลังแตกละเอียด โดยรอบพบระเบิดลูกเกลี้ยงตกอยู่ 1 ลูก ปืนกลยี่ห้อทอมสันตกอยู่ 1 กระบอก

ในรถพบศพนายพล ชัยยะพันโท สัญชาติลาว ถูกยิงเสียชีวิตคาเบาะด้านข้างคนขับ ส่วนในรถพบกระเป๋าเดินทางสีฟ้า 2ใบ ภายในมียาบ้าล็อตใหญ่รวมกันประมาณ 2 แสนเม็ด และพบว่ามีคนร้ายหลบหนีไปได้ 2 คน ชื่อนายจักรณรงค์ พลไชย อายุ 34 ปีและนายประสม สุทธิชนโสภาเข้าไปในป่าหญ้าข้างฐานทัพ นอกจากนี้ยังพบบัตรคล้องคอของตำรวจภูธรภาค 2 ตกอยู่ภายในรถด้วย จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าตำรวจสืบสวนทราบว่ามีการนัดส่งยาเสพติดกันที่ตลาดไทได้ติดตามสะกดรอยมาตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. กระทั่งวันนี้รับแจ้งว่ามีการส่งยาที่จุดดังกล่าว จึงนำกำลังไปซุ่มรอจับกุม แต่เนื่องจากคนร้ายไหวตัวทัน ก่อนจะยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเปิดทางหลบหนี

จากนั้น คนร้ายได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบว่าถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าการจราจรติดขัด จึงหักรถย้อนศรตรงสะพานกลับรถ เพื่อขับเข้าฐานทัพอากาศดอนเมือง แต่ฐานทัพปิดเพราะกำลังก่อสร้างเส้นทางอยู่ คนร้ายจึงเหยียบคันเร่งขับพุ่งขึ้นฟุตปาธ และปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ทันที พร้อมกับควักอาวุธปืนกำลังจะยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันปิดล้อม ก่อนตัดสินใจยิงต่อสู้จนวิสามัญคนร้ายได้สำเร็จ

ล่าสุดหนึ่งในสองคนร้าย ทนการกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหวยอมเดินออกมามอบตัวแล้ว ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม เบื้องต้น ทราบชื่อคือ นายโชคชัย ตั่วมาก รับสารภาพกับตำรวจว่า เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อมารับยาบ้าทั้งหมดที่ตลาดไท ก่อนจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่พัทยาต่ออีกทอดหนึ่ง ส่วนคนร้ายที่ยังหลบซ่อนอยู่อีกหนึ่งคนทราบชื่อว่าคือนายหม่ำ ยังไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ได้รีบนำตัวนายโชคชัย ขึ้นรถไปสอบสวนอย่างละเอียดทันที.