posttoday

สาวไทยครองแชมป์ลอบค้ายาในบราซิล

07 สิงหาคม 2555

ทูตเตือนหญิงไทยอย่าไว้ใจคนรักชาวแอฟริกันหวั่นอาจถูกหลอกให้ขนยาเสพติดข้ามประเทศ เผยบราซิลมีสาวไทยติดคุก 40 คน ชี้แนวโน้มอาจเพิ่มขึ้น 40%

ทูตเตือนหญิงไทยอย่าไว้ใจคนรักชาวแอฟริกันหวั่นอาจถูกหลอกให้ขนยาเสพติดข้ามประเทศ เผยบราซิลมีสาวไทยติดคุก 40 คน ชี้แนวโน้มอาจเพิ่มขึ้น 40%

 

สาวไทยครองแชมป์ลอบค้ายาในบราซิล ภาพประกอบข่าว ยาเสพติด

 

นายธฤต จรุงวัฒน์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เปิดเผยว่า ประเทศไทยถือว่ามีชื่อเสียงในประเทศบราซิลอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬามวยไทย ซึ่งมีคนบราซิลไม่ต่ำกว่า 50,000 คน ชื่นชอบและสนใจฝึกกีฬาดังกล่าวและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสถานทูตไทยมีแผนที่จะส่งเสริมกีฬาดังกล่าวให้เป็นที่นิยมมากขึ้น เพราะมีชาวบราซิลเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ประมาณปีละ 20,700 คน

อย่างไรก็ตาม ที่น่ากังวล คือ ปัญหาหญิงไทยถูกจับกุมในบราซิลด้วยข้อหาลักลอบขนยาเสพติด ซึ่งมีประมาณ 40 คน ถือว่าเกินครึ่งหนึ่งของคนไทยทั้งหมดที่อาศัยอยู่ ประมาณ 70 คน อีกทั้ง ทางการบราซิลถือว่าหญิงไทยกลุ่มนี้เป็นกลุ่มหญิงต่างชาติที่ถูกจับกุมในประเทศมากที่สุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 40% เนื่องจากเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนสูง ถ้าสามารถนำเข้ามาได้ จึงมีหญิงไทยบางส่วนยินดีทำผิดซ้ำอีก

“ทางการบราซิลและผู้ว่าการนครเซาเปาโล ได้ส่งสัญญาณมายังสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ว่าจะต้องดำเนินการกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง มิฉะนั้นจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของไทยอย่างมาก และปัญหานี้ยังเกิดในประเทศอื่นๆในกลุ่มละตินอเมริกาด้วย เช่น เปรู”นายธฤต กล่าว

นอกจากนี้ วิธีการลักลอบขนยาเสพติด โดยระยะแรกชายชาวแอฟริกันจะเข้ามาตีสนิทจนกระทั่งหญิงไทยเกิดความรักและสร้างครอบครัวร่วมกัน จากนั้นจะขอให้หญิงไทยช่วยขนกระเป๋าเดินทางไปยังทวีปเอเชียซึ่งเป็นประเทศซื้อสูง หรือเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคอื่นๆ โดยฝ่ายชายจะหาข้ออ้างให้ฝ่ายหญิงเดินทางไปก่อน และไม่แจ้งว่ามียาเสพติดถูกซุกซ่อนไว้ในกระเป๋า

ทั้งนี้ เชื่อว่ายังมีหญิงไทยที่จะถูกหลอกด้วยวิธีนี้อีกจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ทางการบราซิลเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบผู้ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ และมีการจับตาหญิงไทยมากขึ้นเป็นพิเศษด้วย ขณะเดียวกันหน่วยข่าวของบราซิลได้มีการติดตามชาวแอฟริกันที่ร่วมขบวนการนี้ด้วย

“ผมขอเตือนหญิงไทยอย่าชะล่าใจ แม้จะเป็นของคนรักก็ตาม รวมถึงขอเตือนไปยังผู้ที่ตั้งใจจะกระทำผิดว่าไม่ง่ายแล้ว และการถูกจำคุกในบราซิลก็มีปัญหาการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำเพราะเขาไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาถึงขั้นชีวิตได้ และหญิงไทยที่ถูกจับกุมในคดีนี้เกือบทั้งหมดจะขอไม่ให้สถานทูตแจ้งเรื่องต่อญาติและครอบครัวที่เมืองไทยรับทราบ และยอมถูกจำคุกไปเรื่อยๆ ”นายธฤต กล่าว

ทั้งนี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยฯได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อยู่ตลอด และคิดว่าป.ป.ส. สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ควรจะทำความรู้จักและประสานงานกับฝ่ายบราซิล เพื่อสร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งศึกษาเส้นทางการลักลอบซื้อขายยาเสพติด เพื่อใช้ในการจับกุม และป้องกันไม่ให้หญิงไทยตกเป็นเหยื่อและเสียภาพลักษณ์ต่อหญิงไทยส่วนใหญ่ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้