posttoday

แก๊งผิวดำคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงิน

07 สิงหาคม 2555

กองปราบจับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติหลอก “แบล็คมันนี่” ลวงเหยื่อทางเน็ตให้โอนเงิน

กองปราบจับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติหลอก “แบล็คมันนี่” ลวงเหยื่อทางเน็ตให้โอนเงิน

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก. 1 บก.ป.  ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายโคโรมา ไอเดซา หรือ เคน เดวิท หรือสมศักดิ์ อายุ 34 ปี สัญชาติเซร่าลีโอน ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ 336/2555 ลงวันที่ 2 ส.ค. 2555 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จับกุมได้ที่ร้านอาหาร “บ้านมิสเตอร์แซนวิช” เลขที่ 374/11 หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า เมื่อประมาณ เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เข้าใช้อินเตอร์เนต เว็บไซต์หาคู่ และ โซเชียลมีเดีย ได้รู้จักกับผู้ติดต่อที่เป็นชายต่างชาติซึ่งอ้างว่าเป็นสัญชาติอเมริกัน ผิวขาว หลังจากนั้นได้พูดคุยผ่านทางเว็บไซต์ Yahoo Messenger  และโทรศัพท์ ก่อนจะหลอกให้โอนเงิน

“ผู้ต้องหาได้เอารูปฝรั่งผิวขาวหน้าตาดี หลอกลวงผู้เสียหายผ่านทางเฟซบุ๊ค เอ็มเอสเอ็น เว็บหาคู่ และ ไฮไฟว์ หลังจากคุยกันไประยะหนึ่งก็อ้างว่าจะส่งของขวัญมาให้โดยไม่บอกว่าเป็นอะไร ก่อนจะแจ้งกับผู้เสียหายว่าเอาของออกมาจากสนามบินไม่ได้ ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเอาของออกจากสนามบิน ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้โอนเงินไปให้ บางรายผู้ต้องหาหลอกว่าที่อยู่ในกล่องเป็นแบงค์ดอลล่าร์แบบแบล็คมันนี่หรือเงินดำ ต้องซื้อน้ำยาล้าง” พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าว

ผบก.ป. ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ นายโคโรมา คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 361-251-3455 ชื่อเจ้าของบัญชีคือนายจรูญ ไม้สน เมื่อเชิญตัวมาสอบปากคำจึงทราบว่าถูก น.ส.นาถลดา คำอ้ายอาจ อายุ 33 ปี อดีตแฟนสาว นำข้อมูลไปเปิดบัญชีธนาคารดังกล่าว

“เมื่อสืบสวนต่อไปจึงพบว่า น.ส.นาถลดา เป็นน้องสาวของ น.ส.เบญจมาศ คำอ้ายอาจ อดีตภรรยาของผู้ต้องหาโดยเป็นผู้นำบัตรเอทีเอ็มใบนี้ไปให้กับผู้ต้องหาใช้ในการกระทำผิดหลอกเหยื่อให้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีดังกล่าวกว่า 20 ล้านบาท และเมื่อตรวจสอบแน่ชัดแล้วพนักงานสอบสวนจึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้”

“จากการตรวจสอบพฤติการณ์ในการกระทำความผิดพบว่าผู้ต้องหาจะใช้วิธีหลอกลวงเหยื่อที่เป็นหญิงสาวที่รู้จักกันทางเว็บไซต์หาคู่ โปรแกรมแชทยาฮูแมสเซนเจอร์ (Yahoo Messenger) หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ค ไฮไฟว์ โดยติดต่อพูดคุยกันและอ้างตัวว่าเป็นชายผิวขาวชาวอเมริกัน อิตาลี และอีกหลายสัญชาติจนผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้นก็อ้างว่าจะส่งของขวัญมาให้จำเป็นต้องมีค่าดำเนินการเมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินให้ก็จะหลอกลวงอีกว่าภายในมีเงินดอลล่าร์และหากจะนำออกมาต้องมีค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมามีผู้เสียหายประมาณ 7 ราย ที่หลงเชื่อโอนเงินให้กับผู้ต้องหา”

พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวและว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 5 ปี นอกจากนี้ยังมีชายชาวต่างชาติอีกรายที่ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ด้วย

ผบก.ป.กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหายังพบว่า เคยถูก บก.ป.จับกุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่งหลังจากพบว่าได้กระทำความผิดฐานหลอกลวงผู้เสียหายโดยมีพฤติการณ์กระทำความผิดในลักษณะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ครั้งนั้นพยานหลักฐานที่พบยังไม่สามารถเอาผิดในคดีดังกล่าว ชุดจับกุมจึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพียงข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ก่อนจะเร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมกระทำความผิดที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป

ด้านผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้การว่ารู้จักกับผู้ต้องหาผ่านโปรแกรมไฮไฟว์ โดยติดต่อกันมาประมาณ 6 เดือน นายโคโรมา บอกว่าจะส่งของขวัญให้ โดยมีเลขที่พัสดุ มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งสินค้า แต่ขณะนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้แล้ว

“ผู้ต้องหาอ้างว่าของที่ส่งมาเป็นแบงค์ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3.8 ล้านบาทต้องมีน้ำยาค่าล้างแบงค์     โดยถูกผู้ต้องหาหลอกลวงให้โอนเงินทางบัญชีธนาคารเป็นเงินกว่า 4 แสนบาท หลังจากรู้จักและติดต่อกันทางเว็บไซต์ไฮไฟว์ ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาอ้างว่าอยากจะซื้อบ้านในเมืองไทย แต่ ดิฉันบอกว่าไม่สามารถทำได้เพราะเป็นบุคคลต่างด้าว หลังจากนั้นก็ยังคงติดต่อกันมาตลอดจนเริ่มไว้เนื้อเชื่อใจกัน กระทั่งผู้ต้องหาอ้างว่าจะส่งของขวัญมาให้แต่อ้างว่านำออกจากสนามบินไม่ได้ ต้องมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ 2 หมื่นบาท โดยขอให้ ดิฉันก็ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ซึ่งหลงเชื่อโอนเงินให้ทางบัญชีธนาคาร แต่กลับไม่ได้รับของตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด” ผู้เสียหายกล่าว

เธอยังกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นผู้ต้องหาหลอกลวงอีกว่า มีเงินดอลล่าร์อยู่ในตู้เซฟ หากจะนำออกมาต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้เสียหายก็ยินดีช่วยเหลือได้โอนเงินไปให้อีกหลายครั้ง ภายหลังจึงแน่ใจว่าน่าจะถูกหลอกลวงแล้ว จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตามแกะรอยการกระทำความผิดจากบัตรเอทีเอ็มของบัญชีเงินฝากธนาคาร

 

แก๊งผิวดำคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงิน แก๊งผิวดำคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงิน