พะเยาเฝ้าระวังไข้เลือดออกเข้ม

สาธารณสุขพะเยาคุมเข้มไขเลือดออกระบาด เร่งสำรวจทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

นางอารีย์ ตันบรรจง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคมือเท้าปากก็ยังไม่อาจจะวางใจได้ ขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าระวังและรับมือกับโรคไข้เลือดออกที่มักจะพบการระบาดในช่วงฤดูฝน

จากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกของจังหวัดพะเยา ตั้งแต่วันที่ 1  มกราคม – 28 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา พบตัวเลขจำนวนผู้ป่วยกระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดพะเยา 60 ราย พื้นที่มียอดผู้ป่วยสูงสุดคือ อ.เชียงคำ จำนวน 23 ราย ถัดมาคือ อ.เมือง จำนวน 14 คน ทั้งนี้มาตรการการเฝ้าระวังและควบคุมโรคที่เข้มข้น 3 แนวทางคือ  1.เกิด เน้นอย่าให้เกิดลูกน้ำยุงลาย พบแหล่งเพาะพันธุ์ยุงต้องทำลายทิ้งให้หมด 2.กัด-อย่าให้ยุงลายกัด ป้องกันด้วยการนอนกางมุ้งทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน และ 3.ควบคุมโรคทันที- เมื่อพบว่าเกิดโรคขึ้นในพื้นที่ใดจะต้องเร่งทำการควบคุมโรคโดยทันที ป้องกันไม่เกิดการแพร่ระบาดลุกลามมากขึ้น

นายอารีย์กล่าวว่า นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าฯพะเยา ได้แสดงความเป็นห่วงและกำชับให้ปฏิบัติอย่างเข้มข้น ซึ่งทาง สสจ.มีการประสานงานไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ(สสอ.)ทุกแห่ง ให้ประสานกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ทุกแห่งทั่วพื้นที่ และให้ รพ.สต.ประสานงานทำงานควบคู่ร่วมกับ อสม. โดยให้ อสม.ดูแลถึงครอบครัวแต่ละครัวเรือน สำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ให้ความรู้เรื่องการป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัด เพื่อไม่ให้เป็นเกิดโรคไข้เลือดออก

ทั้งนี้จังหวัดพะเยาได้กำหนดระดับมาตรฐานของจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคระบาดแต่ละปีต้องมีจำนวนไม่เกิน 50 ต่อแสนประชาชน ดังนั้นจังหวัดพะเยาจะมีผู้ป่วยได้ไม่เกิน 250 คน ขณะนี้จึงถือว่าปลอดภัย แต่ก็ไม่ประมาท เพราะสิ่งที่ดีที่สุดคือการควบคุมโรคไม่ให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องควบคุมไม่ให้มีการระบาดลุกลามได้

นางอารีย์ กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยที่สำรวจพบเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์ปีกรายงานว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ถูกยุงลายบ้านกัด อาจจะเป็นเพราะนอนกลางวันแล้วไม่ระวัง นอนไม่กางมุ้ง ถอดเสื้อ หรือไม่นอนในห้องมีมุ้งลวด ทำให้เสี่ยงต่อการถูกยุงลายกัดได้ง่าย แต่สำหรับประชาชนที่เข้าสวนกรีดยางยังไม่พบติดเชื้อไข้เลือดออก แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่ประมาทและระวังไม่ให้ถูกยุงลายกัดดีที่สุด

“ระยะนี้ทั้งโรคระบาด มือเท้าปาก และ ไข้เลือดออก จังหวัดพะเยามีนโยบายเน้นเฝ้าระวังและควบคุมโรคอย่างเข้มข้นทั้งสองโรค แต่จะเน้นโรคไข้เลือดออกมากขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาของการระบาดประจำทุกปี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สาธารณะเช่น สถานที่สาธารณะทั่วไปที่พบสภาพค่อนข้างมีหญ้าขึ้นรก วัดที่มีพระเณรจำนวนมาก และโรงเรียนทุกแห่ง สถานที่เหล่านี้เป็นที่สาธารณะที่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีผู้อยู่ในสถานที่ดังกล่าวมากต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างละเอียด ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุโรคระบาดขึ้นในพื้นที่ใด ให้ประชาชนแจ้ง อสม. รพ.สต. หรือ สสอ. เพื่อรายงานให้หน่วยงานเข้าทำการควบคุมโรคได้ทันการณ์” นายแพทย์ สสจ.พะเยา กล่าว