ศาลเตือนแกนนำเบี้ยว9ส.ค.เจอหมายจับทันที

อธิบดีศาลอาญา เตือน "ตู่" ปรามแดงห้ามป่วนวันพิจารณาถอนประกัน 9 ส.ค.นี้ ย้ำหากจำเลยไม่มาออกหมายจับทันที

นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวถึงการนัดพิจารณา ที่มีผู้ร้องให้ถอนการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) จำเลยที่ 2 ในคดีร่วมกันก่อการร้าย และแกนนำนปช.รายอื่นร่วมอีก 23 คน ในวันที่ 9 ส.ค.ว่า ขณะนี้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ทำให้จำเลยคดีก่อการร้ายที่เป็น ส.ส. รวม 4 คน คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ , น.พ.เหวง โตจิราการ , นายก่อแก้ว พิกุลทอง , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท. ได้รับเอกสิทธิคุ้มครอง อาจไม่ต้องเดินทางมาศาลตามนัด

อย่างไรก็ตามจำเลยควรส่งทนายความมาแจ้งต่อศาลว่าขอใช้เอกสิทธิการเป็น ส.ส. ที่อยู่ระหว่างการเปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งศาลก็จะรอจนกว่าปิดสมัยประชุมสภาแล้วจะเรียกจำเลยทั้ง  4 คน มาสอบถามต่อไป  ส่วนจำเลยอื่นที่ไม่ได้เป็น ส.ส. หากไม่มาตามที่ได้ออกหมายเรียก ศาลจะมีคำสั่งให้ออกหมายจับทันทีเพราะถือว่าฝ่าฝืนหมายเรียกแสดงว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงอยากให้ทนายความจำเลยแนะนำให้จำเลยมาศาลตามนัด ยกเว้นว่ามีเหตุสุดวิสัยจริงๆ อาทิ เจ็บป่วย

สำหรับกรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ผู้ช่วยเลขานุการรมว.มหาดไทย หนึ่งในจำเลยคดีก่อการร้าย ที่ได้ปราศรัยแจกที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและครอบครัว ก็ได้ส่งให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนไปพิจารณาแล้ว ซึ่งกรณีนี้ศาลต้องพูดคุยสอบถามนายยศวริศ เป็นกรณีพิเศษเหมือนเช่นกรณีนายจตุพร หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายนิพิฎฐ์ ได้ยื่นคำร้องให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว นายก่อแก้ว

ส่วนการออกข้อกำหนดการเข้าฟังนัดพิจารณาว่า คาดว่าในวันดังกล่าวจะมีสื่อมวลชน ผู้ติดตาม และผู้ให้กำลังใจพวกจำเลยเดินทางมาศาลอาญาจำนวนมากกว่าในวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ศาลได้นัดสอบถามนายจตุพร เพียงคนเดียว ดังนั้นเพื่อความสะดวก ศาลอาญา จึงจะเปิดห้องพิจารณาคดี 704 ที่รองรับผู้เข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีได้มาก 200-300 คน เพื่อความสะดวก เพราะในวันนั้นเฉพาะฝ่ายจำเลยก็มีมากถึง 20 กว่าคน ยังไม่รวมถึงทนายความ ผู้ติดตามจำเลย กองเชียร์

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญผู้ร้อง และสื่อมวลชนที่จะมาติดตามทำข่าว ซึ่งศาลอาญาได้เตรียมถ่ายถอดเสียงการพิจารณาคดีกระจายไปตามจุดต่างในตัวอาคารศาลอาญาที่จะจัดไว้รองรับการทำงานของสื่อมวลชนด้วย จะได้ไม่เกิดความสับสนวุ่นวายต่อกระบวนการพิจารณาคดี

ทั้งนี้ในวันที่ 6 ส.ค นี้ จะประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางแผนรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกบริเวณศาลด้วย ซึ่งในวันที่นัดสอบถามนายจตุพร ครั้งแรกวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดความโกลาหลวุ่นวายในหลายเรื่องทั้งการเดินเข้าออกและการใช้โทรศัพท์ในห้องพิจารณาคดีนี้ และการที่ผู้เดินทางมาให้กำลังใจยึดริมฟุตบาทหน้าศาลอาญาจอดรถติดเครื่องขยายเสียงเปิดเวทีปราศรัย ตั้งร้านขายอาหาร เครื่องดื่มรวมไปถึงสินค้าที่ระลึก ซึ่งศาลอาญาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมากถึงความไม่เหมาะสม ทำให้เกิดปัญหาเดือดร้อน

" ศาลได้ออกข้อกำหนดชัดเจนแล้ว หากมีการฝ่าฝืนก็จะถือว่าละเมิดอำนาจศาล ถือเป็นการจัดระเบียบความเรียบร้อย เชื่อว่ากลุ่มคนเสื้อแดงคงจะเข้าใจ ในครั้งที่แล้ว ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนได้ขอความร่วมมือนายจตุพรให้ช่วยชี้แจ้งทำความเข้าใจกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจแล้ว ซึ่งนายจตุพรก็รับปาก" นายทวี กล่าว

อย่างไรก็ตามหากกองเชียร์มามากแล้วนายจตุพรคุมไม่อยู่ ก็อาจกระทบกับการพิจารณา สำหรับการขายของก็ต้องขอร้องให้ช่วยทำตามเพราะหากมีการตั้งขายของ ทำให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนที่พบเห็น และอาจมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซง ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเชื่อว่าม็อบที่จะมาคงมีการเตรียมอาหารการกินไว้บ้างแล้ว หากไม่เพียงพอก็มีโรงอาหารไว้บริการแล้ว