posttoday

ประเด็นร้อน30ก.ค.

30 กรกฎาคม 2555

รอยต่อปลายเดือน ก.ค. สู่ต้นเดือน ส.ค. ปลุกการเมืองคุกรุ่น แต่ละฝ่ายวอร์มอัพงัดข้อมูลตอบโต้รอวันเปิดสภา

รอยต่อปลายเดือน ก.ค. สู่ต้นเดือน ส.ค. ปลุกการเมืองคุกรุ่น แต่ละฝ่ายวอร์มอัพงัดข้อมูลตอบโต้รอวันเปิดสภา ส่วนนายกฯ ยิ่งลักษณ์ โชว์ขี่ช้างตักบาตรก่อนประชุม ครม.สัญจร จ.สุรินทร์ มีวาระร้อนใดบ้างต้องติดตาม

1.คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญยังคลุมเครือต่างจากที่พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ไว้ วันนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล เตรียมประชุมหารือถึงท่าทีคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ขณะที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล นัดประชุมวิปรัฐบาลเช่นกันเพื่อหารือถึงเรื่องที่ค้างอยู่ในวาระการประชุม ซึ่งหนีไม่พ้น 2 เผือกร้อน คือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ว่ามีความเหมาะสมจะนำขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่ ท่ามกลางกระแสกดดันจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ขีดเส้นตายให้ถอนร่างปรองดองออกจากสภาภายในวันที่ 1 ส.ค.

2.ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่อย่างเป็นทางการปักหลักที่ จ.สุรินทร์ หลังจากวานนี้ ครม.โชว์ภาพลงพื้นที่ไปแล้ว เช้าวันนี้ก่อนประชุม ครม. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติภารกิจสไตล์ถนัดด้วยการขี่ช้างตักบาตร สร้างภาพผ่านสื่อมวลชนลุ้นอย่าให้ร่วงหล่นจากหลังช้าง เนื่องจากมีคิวประชุมตามวาระที่อาคารล้านช้าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

สำหรับวาระประชุม ครม. ไม่มีทางพลาดเด็ดขาดกับข้อเสนอจัดสรรงบประมาณพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดยุทธศาสตร์ภาคอีสานตอนล่าง พี่น้องชาวอีสานรอม่วนซื่นจะได้รับงบไปพัฒนาโครงการใดบ้าง พร้อมกันนั้น มาอีสานทั้งทีต้องจัดหนัก เน้นเอาใจฐานคะแนนเสียง โดยเฉพาะการหารือโครงการประชานิยมหลากหลาย อย่างกรณีบัตรสินเชื่อเกษตรกร ที่นายกฯ เปิดโครงการวานนี้ไปแล้ว ก็จะมีรายงานเข้า ครม.ให้เห็นอีกรอบถึงแนวทางการดำเนินงาน

3.โครงการรถยนต์คันแรกได้คืนภาษี ยื้อแล้วยื้ออีก คาดหมายว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง จะลงนามเสนอเข้าวาระ ครม.วันนี้ ปรับหลักเกณฑ์ซื้อรถยนต์คันแรกให้ยืดเวลาการรับรถออกไป ซึ่งกำหนดทางเลือกไว้เบื้องต้นยืดระยะเวลาแบบมีกำหนด 3 เดือน หรือ 6 เดือน หรือยืดออกไปแบบไม่มีกำหนด ก็ต้องติดตามมติสุดท้ายจะเลือกทางใด

วาระ ครม.อื่น กระทรวงกลาโหมชงร่าง พ.ร.บ.กำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการทหาร กระทรวงวัฒนธรรมเสนอเรื่องการจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลโมร็อกโก

นอกจากนี้ งานปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เจ้าหน้าที่ก็ต้องลุยเต็มที่ จึงต้องกำหนดความชัดเจน โดยวันนี้มีวาระเพื่อทราบ เสนอร่างกฎสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำหนดเครื่องแบบพิเศษสำหรับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเสนอการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ

4.แม้จะครบวาระการทำงานไปแล้ว แต่วันนี้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป. ที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน นัดประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปผลการทำงานเพื่อนำเสนอรัฐบาลและสาธารณชนในวันที่ 10 ส.ค. น่าสนใจข้อสรุปจากคณะทำงานชุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาความจริงเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่ผ่านมา จะมีการระบุถึงการปรากฏกายของชายชุดดำ การเสียชีวิต และนำไปสู่การเยียวยาสังคมอย่างไร

5.มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 30 ท่ามกลางสายตาผู้ชมทั่วโลกลุ้นนักกีฬาของชาติตนเอง ส่วนคนไทยก็ลุ้นเหรียญทองกันต่อ ใครจะประสบความสำเร็จบ้าง แต่ขณะเดียวกันกรมทรัพย์สินทางปัญญานัดหมายผู้ประกอบการที่ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาต่างประเทศและผู้ที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปถ่ายทอดต่อ ระดมสมอง เป็นการหารือจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์และปัญหาจอดำเหมือนที่ผ่านๆ มา

6.ต่างชาติซุกระเบิดหวังก่อการร้ายหรือไม่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี เหตุการณ์นี้จำกันได้ วันนี้เวลา 09.00 น. ศาลอาญารัชดาภิเษกนัดประชุมคดีตรวจหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายอาทริส ฮุสเซน อายุ 47 ปี ชาวเลบานอน สัญชาติเลบานอนสวีเดน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมียุทธภัณฑ์หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จากกรณีนายฮุสเซนมีแอมโมเนียมไนเตรต จำนวนถึง 4,380 กก. ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมของระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่อาคารพาณิชย์ใน จ.สมุทรสาคร

7.อีกประเด็นเกี่ยวข้องศาล แต่เป็นศาลประเทศเพื่อนบ้าน โดยวันนี้ต้องติดตามชะตากรรมคนไทย 92 คน ที่ทางการพม่าจับกุมตัว เมื่อศาลจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า นัดพิจารณาความผิดคนไทยเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืน ขณะที่ญาติของคนไทยทั้ง 92 คน ยังเฝ้าติดตามความชัดเจนการช่วยเหลือกลับประเทศ.