posttoday

ตร.ปากน้ำจับลูกจ้างแสบฉกทองขาย

24 กรกฎาคม 2555

ตำรวจปากน้ำจับลูกจ้างร้านทองฉกแหวนแท้ไปขายแล้วนำของปลอมมาวางแทน

ตำรวจปากน้ำจับลูกจ้างร้านทองฉกแหวนแท้ไปขายแล้วนำของปลอมมาวางแทน

ตร.ปากน้ำจับลูกจ้างแสบฉกทองขาย

ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ เสรีรัฐ ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุลักทรัพย์ภายในห้างเพชรทองโต๊ะกังเจริญชัย  ซึ่งตั้งอยู่ชั้น 1 ศูนย์การค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ จึงรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุพบเจ้าของร้านและพนักงานได้ช่วยกันยืนคุมตัว นางสุนิตา  รวยพินิจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 154 หมู่ 2 ต.บางโปรง อ.เมือง สมุทรปราการ ซึ่งมาทำทำงานที่ห้างทองดังกล่าวได้ประมาณ 20 วัน พร้อมด้วยของกลางซึ่งเป็น แหวนพลอยทัพทิมล้อมเพ็ชร ซึ่งเป็นของปลอมจำนวน 1 วง พระกริ่งทองเหลืองจำนวน 1 องค์  เหรียญหลวงพ่อหับ วัดหนองช้างแล่น จ.ตรัง จำนวน 1 เหรียญ ซึ่งเป็นของปลอมทั้งหมด 

เจ้าของห้างทองดังกล่าว ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้รับนางสุนิตา เข้ามาทำงานที่ร้านทอง โดยให้เป็นพนักงานขายหน้าร้านและเพิ่มเข้ามาทำงานได้เพียง 20 วัน จนกระทั้งเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ลูกสาวได้เข้าไปตรวจดูที่ตู้จำหน่ายแหวนเพ็ชรได้พบมีพิรุธเนื่องจากแหวนทองคำพลอยทัพทิมล้อมเพ็ชร ราคา 43,000 บาท สีเปลี่ยนไปจึงได้นำมาตรวจเช็คจึงได้พบว่าแหวนวงดังกล่าวเป็นของปลอม ลูกสาวจึงได้มาเล่าให้ฟัง จึงได้มาตรวจเช็คของทั้งหมดที่อยู่ภายในตู้ ซึ่งในขณะนั้น นางสุนิตา เดินเข้าไปที่หลังร้าน ได้พบว่าพระกริ่ง ร.5 รุ่นส่วนพระองค์ซึ่งมีอายุกว่าร้อยปีที่สร้างด้วยทองคำน้ำหนัก 3 บาท มูลค่ากว่า 72,000 บาท และเหรียญหลวงพ่อทัพพรหมจารี ซึ่งเป็นเหรียญทองคำน้ำหนัก 2 สลึง ราคาประมาณ 12,000 บาท ได้หายไปและมีการเปลี่ยนเอาของปลอมมาว่างเอาไว้แทนที่ 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นางสุนิตาให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเจ้าหน้าที่วางแผนให้ลูกสาวเจ้าของร้านเข้าไปเจรจาโดยทำทีว่าหากเอาของมาคืนจะไม่เอาเรื่อง นางสุนิตา หลงเชื่อจึงยอมรับว่าเป็นคนเอาของทั้งหมดไปจริง โดยไปหาซื้อแหวนและพระที่มีลักษณ์ใกล้เคียงกันมา จากนั้นเอามาเปลี่ยนของของจริงไป อาศัยจังหวะที่ลูกสาวเจ้าของร้านเผลอเอาของจริงทั้งหมดใส่กระเป๋าและเอาของปลอมมาวางให้แทนที่ ก่อนที่จะเอาแหวนทัพทิมล้อมเพ็ชรไปจำนำเอาไว้ที่ร้านทองปากทางเข้าวัดสวนส้ม ส่วนเหรียญหลวงพ่อหับ ซึ่งเป็นเหรียญทองคำ นำไปขายให้ร้านทองในราคา 12,000 บาท ส่วนพระกริ่งทองคำได้เก็บเอาไว้ที่บ้านพักยังไม่ได้ขาย ซึ่งระหว่างที่ทั้งสองเจรจากันเจ้าหน้าที่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพและเสียงเอาไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด  เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวนางสุนิตา ข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์นายจ้าง ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย