ฟ้าผ่ากุฏิวัดตราดไฟไหม้เกือบวอดทั้งหลัง
ฟ้าผ่ากุฏิเจ้าอาวาทวัดพนมพริก จ.ตราด ไฟไหม้เกือบวอดทั้งหลัง ขณะพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ไฟไหม้เสียหาย
ฟ้าผ่ากุฏิเจ้าอาวาทวัดพนมพริก จ.ตราด ไฟไหม้เกือบวอดทั้งหลัง ขณะพระพุทธรูปเก่าแก่หลายองค์ไฟไหม้เสียหาย
พ.ต.ท.วิเชียร ปั้นสุข พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ได้รับแจ้งเหตุจากนายอเนก นิลชาติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านพนมพริก ตำบลแสนตุ้ง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ว่าเกิดเหตุไฟไหม้กุฏิพระครูสุวรรณ วรประสาสน์ เจ้าอาวาสวัดพนมพริก และเจ้าคณะตำบลเทพนิมิต หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าดับเพลิงของเทศบาลตำบลแสนตุ้งให้เดินทางไประงับเหตุไปไหม้ทันที
ในที่เกิดเหตุเป็นกุฏิไม้ 2 ชั้น พบไฟกำลังลุกไหม้ชั้นสองของกุฏิ ชาวบ้านได้ช่วยขนทรัพย์สินมีค่าออกมาจากกุฏิ โดยเฉพาะพระเก่าแก่ที่อยู่ในกุฏิ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมสกัดไฟไม่ให้ลุกลามซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงก็สงบลง
พ.ต.อ.ณัฐวัช กล่าวว่า สาเหตุการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ตนเองได้ตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็น คือเกิดฟ้าผ่าลงมาที่กุฎิทำให้เกิดไฟไหม้ และเกิดจากไฟฟ้ารัดวงจร แต่ยังไม่สามรถสรุปสาเหตุที่แท้จริงว่ามาจากสาเหตุใด ซึ่งจะให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติมว่าต่อไป ส่วนเรื่องการวางเพลิงนั้นคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เนื่องจากมีพยานเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ด้านพระครูสุวรรณ กล่าวว่า หลังรับเหตุจึงรีบกลับมาที่กุฎิทันที และได้เข้าไปช่วยขนพระและทรัพย์สินออกมาจากกุฎิ ขณะที่ตนเองได้รับบาดเจ็บจากการถูกน้ำตาเทียนที่ละลายจากไฟไหม้ลวกใส่แขนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยนำพระพุทธรูปออกมาได้เพียง 4 องค์ เท่านั้น เป็นพระพระโมคสารีบุตร 2 องค์ และพระพุทธรูป ปรางสมาชิก ทั้ง 3 องค์ทำขึ้นเมื่อปี 2497 ถูกไฟไหม้จนเกือบหมด ส่วนพระพุทธรูปอีก 1 องค์ เป็นพระประทานสมัยอยุธยามีอายุกว่า 300 ปี ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อไม้ ถูกไหม้ดำเป็นตอตะโก แต่ยังเหลือเป็นรูปร่างขององค์พระอยู่ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปอีกหลายองค์ที่เก็บไว้ภายในกุฏิที่เกิดเหตุอีกจำนวนมากที่ถูกไฟไหม้เสียหาย ซึ่งประเมินค่าความเสียหายไม่ได้เลย