posttoday

สธ.-ศธ.จัดบิ๊กคลีนขจัดมือเท้าปาก

20 กรกฎาคม 2555

ศธ.ผนึกสธ. กทม. ขจัดโรคมือ เท้า ปาก เปื่อย คาดปลาย ส.ค.สกัดการระบาดดีขึ้นประสานวธ.คุมความสะอาดร้านเกมส์ ฝากผู้ปกครอง พบลูกมีอาการรีบพบแพทย์

ศธ.ผนึกสธ. กทม. ขจัดโรคมือ เท้า ปาก เปื่อย คาดปลาย ส.ค.สกัดการระบาดดีขึ้นประสานวธ.คุมความสะอาดร้านเกมส์ ฝากผู้ปกครอง พบลูกมีอาการรีบพบแพทย์

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) พร้อมด้วย นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข(สธ.)และพญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ร่วมแถลงข่าว “ร่วมกันเฝ้าระวังและขจัดโรคมือ เท้า ปาก” และแจกคู่มือ ชุดอุปกรณ์ป้องกันโรคมือ เท้า ปากให้กับโรงเรียน

นายสุชาติ เปิดเผยว่า ว่า ศธ.อยากเน้นย้ำให้ทุกโรงเรียนปฎิบัติตามมาตรการและขจัดโรคมือ เท้า ปาก 6 ข้อดังนั้น 1.ให้สถานศึกษาร่วมกันสาธารณสุขจังหวัด อำเภอ ตำบลให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมือ เท้า ปาก แก่ผู้ปกครอง ครู และนักเรียน 2. ให้เฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคมือ เท้า ปาก ในสถานศึกษาอย่างเข้มงวด 3. สถานศึกษาติดตามสถานการณ์ และประสานงานกับสธ.อย่างใกล้ชิด 4. ให้จัดประชุมครูเกี่ยวกับข้อมูลของโรคดังกล่าวและจัดทำคู่มือเอกสารให้กับผู้ปกครอง และชี้แจงให้นักเรียนทราบโดยทั่วถึง ทั้งนี้ ให้ครูเฝ้าสังเกตนักเรียน และตรวจสุขภาพนักเรียนทุกคน หากพบนักเรียนมีอาการเข้าข่ายน่าสงสัย เช่น มีจุด หรือผื่นแดง ตุ่มพองใส ที่มือ แขน ขาหรือมีไข้ ให้แจ้งผู้ปกครองและนำไปพบแพทย์โดยด่วน  5. หากพบนักเรียนเป็นโรคดัวงกล่าว ผู้บริหารต้องสั่งปิดโรงเรียนเป็นระดับชั้น เพื่อป้องกันการระบาดของโรคอย่างน้อย 7-10 วัน และ 6.หากเกิดการระบาดในสถานศึกษาต้องมีการควบคุมอย่างเข้มข้น ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค

นายวิทยา กล่าวว่าสธ.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย ศธ.ในการป้องกันเฝ้าระวังโรคที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โรคดังกล่าวมีการควบคุมที่ดี โดยดูได้จากพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เมื่อลูกหลานมีอาการผิดปกติ หรือมีไข้ก็พามาพบแพทย์ทันที

นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ได้ประสานมายังสธ. ให้เข้าไปช่วยดูแล ตรวจสอบความสะอาดร้านเกมส์ และร้านวีดีทัศน์ เนื่องจากร้านเหล่านี้มีเด็กเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งทาง   สธ.พร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการเข้าไปดูแล อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคดังกล่าวที่เกิดขึ้น ประเทศไทยถือว่ามีผู้ป่วยจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และคาดว่าปลายเดือนส.ค.นี้ จำนวนผู้ป่วยลดลง ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะติดต่อไปยังผู้ใหญ่นั้น เชื่อว่าจะไม่สามารถติดต่อมายังผู้ใหญ่ได้ นอกจากผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือละเลยในการดูแลรักษาความสะอาดตัวเอง ดังนั้น อยากฝากผู้ใหญ่ พ่อแม่ ผู้ปกครองให้ดูแลตัวเอง และบุตรหลาน หากมีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์ทันที

ด้าน พญ.มาลินี  กล่าวว่า ทางกทม.ได้ร่วมกับสธ.ในการเฝ้าระวังโรคมือ เท้า ปาก อย่างเต็มที่ โดยนอกจากจะขอความร่วมมือไปยังโรงเรียนกทม. ครูให้ช่วยดูแลเด็ก และทำความสะอาดโรงเรียนแล้ว ยังมีบริการแพทย์เคลื่อนที่  และจะมีเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลจากกรมควบคุมโรคเข้าไปตรวจสุขภาพเด็ก ฉะนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ต้องกังวล ขอให้มั่นใจได้ว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันเฝ้าระวัง และดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มงวด

ด้านนายวิทยา ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของโรคมือเท้าปากในปัจจุบันว่า ทางรัฐบาลได้มีการกำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ทำงานแบบบูรณาการร่วมกัน เพื่อรณรงค์ในการป้องกันการระบาดของโรคมือเท้าปาก ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครอง
นอกจากนี้นายวิทยา ยังกล่าวว่า ได้รับการรายงานสถานที่ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ต่อการแพร่ระบาดของโรค อาทิ ร้านเกมส์ ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงเครื่องเล่นตามสถานที่ต่างๆ ดังนั้นจึงได้มีการหาแนวทางในการป้องกันเพิ่มขึ้น

สำหรับการแพร่ระบาดของโรค มือเท้าปาก ในผู้ใหญ่นั้น นายวิทยา ระบุว่า ยังไม่มีความน่าเป็นห่วงนักเนื่องจากผู้ใหญ่มีภูมิต้านทานมากกว่า พร้อมทั้งเชื่อว่า สถานการณ์การระบาดของโรคจะลดลงภายในเดือนสิงหาคมนี้อย่างรก็ตาม ยังได้ฝากไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง หากพบว่าบุตรหลานมีอาการป่วยให้รีบพาไปพบแพทย์ตรวจดูอาการเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรค

เบื้องต้นสถานการณ์โรค มือ เท้า ปาก ในเขตกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ป่วยสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 19 กรกฏาคม 2555 จำนวน 2,704 ราย โดยเขตที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ เขตราชเทวี เขตสะพานสูง และเขตบางกะปิ ส่วนยอดผู้ป่วยทั่วประเทศมีจำนวน 13,918 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี