posttoday

ยายรับฆ่าหลานเพราะอายมีเรื่องบ่อย

17 กรกฎาคม 2555

ผบช.น.นำตัวยายฆ่าหลานวัย 13 ปีแถลงข่าว รับสารภาพทั้งน้ำตา ทำลงไปเพียงอยากสั่งสอนไม่คิดจะเอาถึงตาย เหตุเพราะหลานมีเรื่องบ่อยอายชาวบ้าน

ผบช.น.นำตัวยายฆ่าหลานวัย 13 ปีแถลงข่าว รับสารภาพทั้งน้ำตา ทำลงไปเพียงอยากสั่งสอนไม่คิดจะเอาถึงตาย เหตุเพราะหลานมีเรื่องบ่อยอายชาวบ้าน

ยายรับฆ่าหลานเพราะอายมีเรื่องบ่อย

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.นำตัวนางสมจิตร จำปาดี อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาฆ่าด.ช.อรรถสิทธิ์ ลีเลิศยุทธ หรือน้องเบิร์ด อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต หลานแท้ๆ ของตนเองเสียชีวิต พร้อมอำพรางศพไปทิ้งไว้ที่บันไดหนีไฟระหว่างชั้น 3 และ 4 ภายในแฟลตยงเจริญ ตีกดี ซ.สภาพงษ์ 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ท้องที่สน.พระขโนง โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากได้สอบสวนกระทั่งนางสมจิตรให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เร่งหาหลักฐานการก่อเหตุดังกล่าว และพบพิรุธอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสอบปากคำนางสมจิตร จำปาดี ซึ่งเป็นยายของผู้ตาย รวมถึงรอยลากศพมาทิ้งไว้ และคราบเลือดต่างๆ แต่ที่คดีต้องล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากทางตำรวจต้องการให้จัดพิธีฌาปนกิจศพของด.ช.อรรถสิทธิ์เสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะจัดการดำเนินการสอบสวนนางสมจิตรโดยละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งวานนี้ ( 16 ก.ค.) นางสมจิตรก็รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าด.ช.อรรถสิทธิ์จริง เนื่องจากทะเลาะกับหลานของตนเองเรื่องไปมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียน

“จากนั้นตำรวจเร่งหาหลักฐานโดยเฉพาะอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ และไปพบไม้ที่ใช้ทุบเข้าที่ศีรษะของด.ช.อรรถสิทธิ์ พร้อมกับผ้าห่มเปื้อนเลือดที่ใช้คลุมศพและลากศพไปทิ้งอำพรางไว้ที่บันไดหนีไฟของอาคารดังกล่าว โดยนางสมจิตรรับว่าใช้ไม้ดังกล่าวทุบตีเข้าที่ท้ายทอยของด.ช.อรรถสิทธิ์ 1 ทีอย่างแรง ขณะที่ด.ช.อรรถสิทธิ์นอนคว่ำคางเกยหมอนดูโทรทัศน์อยู่ กระทั่งชักและเสียชีวิตทันที ซึ่งตรงกับการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ที่ระบุว่าถูกของแข็งตีที่ศีรษะอย่างแรงจนเสียชีวิต” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

ผบช.น. กล่าวอีกว่า ที่ตำรวจต้องหาหลักฐานมาประกอบคำรับสารภาพ เพื่อเป็นการยืนยันว่าจับกุมผู้ต้องหาตัวจริง ไม่ใช่รับสารภาพแทนใคร หรือรับสารภาพทั้งที่ไมได้ก่อเหตุ ยืนยันว่าไม่ผิดตัวแน่นอน นอกจากนี้ นางสมจิตร ผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุยิงสามีตัวเองตาย เหตุเกิดเมื่อปี 2536 ท้องที่สน.บางนา เนื่องจากทะเลาะวิวาทกัน แต่ติดคุกเพียงแค่ 12 วันก็ประกันตัวออกมาสู้คดีและหลุด กระทั่งมาก่อเหตุฆ่าหลานตนเองอีกครั้ง

ด้านนางสมจิตร กล่าวทั้งน้ำตาถึงสาเหตุที่ต้องฆ่าหลานตัวเองว่า ที่ผ่านมาหลานชายของตนมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในรอบ 1 ปีที่ผ่านมามีนิสัยเกเร และก่อเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกับเพื่อนที่โรงเรียนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนในฐานะผู้ปกครองก็รู้สึกอับอายขายหน้าที่ต้องไปโรงเรียนเพื่อไกล่เกลี่ยให้กับหลานชายอยู่บ่อยครั้ง กอปรกับที่ผ่านมาเคยว่ากล่าวตักเตือนถึงพฤติกรรม แต่ด.ช.อรรถสิทธิ์ ก็โต้เถียง และยังทำร้ายร่างกายตนบ่อยครั้งทั้งผลัก และชกที่อกจนตนสลับก็มี

“ก่อนเกิดเหตุ น้องเบิร์ดมาขอเงินยาย 500 บาท บอกว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ยายบอกไปว่ามีแบงก็พันบาทอยู่แค่ใบเดียว ขอไว้ก่อนให้ยายไปแลกตอนเย็นจะเอาให้ แต่ด.ช.เบิร์ดกลับถือมีดมาขู่พร้อมกับบอกว่า ถ้ายายไม่ให้เงินวันนี้ยายตายแน่ ซึ่งยายก็เสียใจที่เลี้ยงหลานกลายเป็นแบบนี้ เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ กระทั่งในช่วงค่ำได้ทะเลาะกันอีกครั้งเรื่องเงินและเรื่องทะเลาะวิวาทที่โรงเรียน และเกิดโมโหหยิบไม้ท่อนยาวมาตีที่หัวของด.ช.เบิร์ด แต่คิดว่าจะสั่งสอนเท่านั้น ไม่คิดจะทำให้ถึงกับตาย” นางสมจิตร กล่าว

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวเสริมภายหลังว่า เบื้องต้นยังจะไม่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนที่ว่าการนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวจะผิดพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กหรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นญาติของผู้เสียชีวิต เรื่องนี้เป็นความสมัครใจของนางสมจิตรเอง ที่ต้องการออกมาแถลงข่าวและพูดกับสื่อมวลชน แต่ตำรวจก็ให้ใส่หมวกและใส่แว่นตาดำเท่านั้น