วอนช่วยลูกวัย5ขวบป่วยผิวหนังไหม้
แม่นครพนมวอนช่วยเหลือลูกวัย 5 ขวบป่วยผิวหนังไหม้หลังคลอด จนตาบอด
แม่นครพนมวอนช่วยเหลือลูกวัย 5 ขวบป่วยผิวหนังไหม้หลังคลอด จนตาบอด
น.ส.สุริยาวดี แสนสุริวงศ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ชาวบ้านวังสิม หมู่ 6 ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม ได้ออกมาร้องทุกผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลปลาปาก(อบต.) และสื่อมวลชนขอความช่วยเหลือไปผู้ใจบุญ เนื่องจากบุตรชาย คือ ด.ช.พีรัชชัย กอมสิน หรือ น้องนิว อายุวัย 5 ขวบ ป่วยเป็นโรคผิวหนังตกสะเก็ด เป็นแผลผุพอง มาตั้งแต่แรกเกิด ทางครอบครัวมีฐานะยากจนไม่สามารถ หาเงินมารักษาได้
อย่างไรก็ตามทางครอบครัวเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกมีการการผิวหนังไหม้เนื่องจากความผิดพลาดของแพทย์ พยาบาล ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่นำบุตรชายเข้าตู้อบอุณหภูมิจนสภาพผิวหนังไหม้ เป็นแผลผุพอง แม้จะทำการรักษาต่อเนื่องมา 5 ปีแล้ว แต่อาการก็ไม่หายขาด ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเรียกร้องขอให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบเพราะเชื่อว่าจะรักษาบุตรชายให้หายขาดได้ จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังมีอาการทรุดหนัก สภาพร่างกายผิดปกติ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของร่างกาย ขณะเดียวกันดวงตาข้างซ้ายก็มองไม่เห็น และอีกข้างขวาก็กำลังจะบอดซ้ำอีก
น.ส.สุริยาวดี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีลูกทั้งหมด 3 คน คนแรกเป็นลูกชาย อายุ 12 ขวบ คนที่ 2 คือด.ช. พีรัชชัย และคนที่ 3 เป็นผู้หญิง อายุ 3 ขวบ ทุกคนมีร่างกายแข็งแรงปกติ แต่ ด.ช.พีรัชชัย ซึ่งป่วยเป็นโรคดังกล่าว ในช่วงฝากครรภ์นั้น มีการตรวจตามนัดทุกครั้ง ซึ่งหมอได้ระบุว่าเด็กมีสุขภาพแข็งแรงเป็นปกติ จนกระทั่งถึงกำหนดคลอดจึงได้ไปทำคลอด ตอนคลอดออกมาพบว่าร่ายกายสมบูรณ์ปกติดี แต่หมอแจ้งว่าลูกชาย ตัวเหลือง จึงนำไปเข้าเครื่องอบ จากนั้นประมาณ 3 -4 วัน จึงออกมาฟักฟื้นที่บ้าน ส่วนลูกชายอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาล จนกระทั่งประมาณ 4 -5 วัน ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่า ให้ไปดูลูกชาย ว่ามีปัญหาเป็นโรคแพ้แสง ทำให้ผิวหนังตามร่างกายเปื่อยผุพอง เหมือนไฟไหม้
ทั้งนี้เมื่อไปโรงพยาบาลพบว่า ตามแขนขาของลูกชาย เป็นแผลผุพองเหมือนถูกความร้อน แต่ตรงลำตัวไม่เป็นไร เพราะมีผ้าอ้อมห่อไว้ สอบถามหมอ-พยาบาล กลับไม่บอกถึงสาเหตุ บอกเพียงว่าเด็กป่วยเป็นโรคแพ้แสง ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่ขอให้หมอช่วยรักษาให้หาย ประมาณ 4 เดือน อาการก็ไม่ดีขึ้น หมอจึงส่งต่อมาโรงพยาบาลศิริราช ประมาณ 1 เดือน ซึ่งหมอแจ้งว่า สาเหตุมาจากการนำเข้าตู้อบ ส่วนรายละเอียดไม่ทราบ ส่วนการรักษาต้องใช้เวลานานมาก
อยู่จนกระทั่งครบ 1 เดือน ลูกชายอาการดีขึ้นระดับหนึ่ง จึงขอกลับมาดูแลที่บ้าน เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย หมอจึงให้ยามารับประทาน และทาผิวหนังตลอด และคิดว่าลูกจะหายในภายหลัง จนทุกวันนี้รักษาผ่านไปแล้ว 5 ปีก็ยังไม่หายซ้ำยังอาการหนักอีก
ด้าน นายสง่า แสงแก้ว อายุ 37 ปี นายก อบต.ปลาปาก กล่าวว่า หลังได้รับการร้องเรียนปัญหาความเดือดร้อน ได้ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล ตามอำนาจ สนับสนุนเงินเบี้ยคนพิการ เดือนละ 500 บาท รวมถึงค่าน้ำมันยานพาหนะ ในการเดินทางไปรักษาที่ กทม.
จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาหาทางช่วยเหลือ รักษาเด็ก รวมถึงวอนผู้ใจบุญมาช่วยกันบริจาคช่วยเหลือ สามารถติดต่อสอบถามให้ความช่วยเหลือได้ ที่โทร.087-8572491 หรือ 090-7704122