เร่งล่ามือโหดปาดคอแท็กซี่

ตำรวจเร่งตามล่าผู้ต้องหาลวงปาดคอแท็กซี่  เผยคดีคืบหลังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด คาดก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์

กรณีคนร้ายเรียกแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน ทศ3357 กรุงเทพมหานคร ของ นายเสาร์ นามโท อายุ 48 ปี ให้เข้าไปส่งภายในหมู่บ้านสัมมากร แขวงและเขตสะพานสูง และเมื่อรถวิ่งมาถึงแยก16 คนร้ายได้ใช้มีดปาดคอนายเสาร์จนเสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น 

ความคืบหน้าคดี ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สาโรช ซุ่นทรัพย์ รอง ผบก.น.4 เรียก พ.ต.อ.วีรชัย โพธิปัตชา ผกก.สน.บางชัน ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาทร ผกก.สส.บก.น.4 และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 ประชุมหารือการติดตามคนร้าย โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง

พ.ต.อ.สาโรช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ภาพวงจรปิดจากป้อมยามหน้าหมู่บ้านแล้วตั้งแต่รถเข้าในหมู่บ้าน รวมทั้งพยานบุคคลด้วย โดยพบว่าคนร้ายมี 2 คน แต่ภาพยังไม่ชัดเจนเท่าไร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคดำเนินการก่อน ส่วนสาเหตุตั้งไว้ประเด็นเดียวคือชิงทรัพย์ แต่ที่คนร้ายไม่เอาทรัพย์สินไปด้วย คาดว่าตอนเกิดเหตุอาจเกิดความผิดพลาดหรือมีอุปสรรคอะไรบางอย่างเลยรีบหนีไปก่อน ขอเวลาเจ้าหน้าที่สักระยะ ซึ่งขณะนี้ฝ่ายสืบสวนมีเป้าหมายอยู่ในใจแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆนี้

พ.ต.อ.สาโรช กล่าวต่อว่า ฝากถึงคนขับแท็กซี่เรื่องการรับผู้โดยสารให้ใช้ความระมัดระวัง สังเกตและเลือกรับ หากเห็นท่าไม่ดีก็ให้ขับรถไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง  รวมถึงหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เปลี่ยวเพราะเป็นจุดล่อแหลมให้คนร้ายลงมือก่อเหตุได้ง่ายขึ้น

ต่อมา น.ส.ศิริพร คำกอง อายุ 39 ปี ภรรยาผู้ตาย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่สน.บางชัน พร้อมกล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องที่สามีถูกฆ่าตายเมื่อช่วงเช้าระหว่างเดินทางไปทำงาน ตนรู้สึกมึนงงและตกใจ ไม่คิดว่าสามีจะถูกฆ่าตายจริงๆ เพราะที่ผ่านมาสามีเป็นคนอารมณ์ดี พูดคุยเก่ง ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร ส่วนใหญ่สามีจะขับรถแท็กซี่กะกลางคืน ออกไปขับรถตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็นจนถึง 6 โมงเช้าเป็นประจำทุกวัน ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นตนคิดว่าน่าจะเป็นการชิงทรัพย์ แต่ทรัพย์สินของสามีตนไม่มีอะไรมาก ไม่มีสร้อยแหวนเงินทองใส่ มีเพียงเงินสดติดตัวไปนิดหน่อยเท่านั้น หลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะนำศพไปตั้งไว้ที่วัดไหน ต้องรอญาติพี่น้องสามีที่อยู่จังหวัดขอนแก่นเดินทางมาก่อนจึงจะตกลงกันอีกทีว่าจะนำศพไปไว้ที่ไหน